กุฏิทรงไทยชายน้ำ วัดบางพระ นครชัยศรี
๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลง ลมแรงอากาศหนาว บนภูเขายิ่งหนาวหนัก นั่งทบทวนธรรม
ท่ามกลางกระแสลมหนาว ถึงเรื่องราวที่ได้พบเห็น นำมาเขียนเป็นบทความธรรมะเพื่อให้เข้ากับบรรรยากาศ
"ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว " คือเรื่องราวและมุมมองที่เราต้องศึกษา เป็นสุภาษิตโบราณที่เปรียบเปรยถึงผู้คนที่มียศ
มีตำแหน่งที่สูง ซึ่งจะพบกับความโดดเดี่ยว ความหวาดระแวง ความเหงาลึกๆ ความรู้สึกที่อ้างว้าง ท่ามกลาง
ผู้คนที่มากมาย แต่คล้ายเหมือนกับอยู่คนเดียว เพราะว่าเขาเหล่านั้น ไม่กล้าที่จะลงมาต่ำ ทำตัวสบายๆ
เพราะการที่เข้าไปยึดติดกับกระแสแห่งโลกธรรม มันก็เลยทำให้ "ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว "
กระแสโลกแบบโลกๆ คือการแก่งแย่งแข่งขัน ดิ้นรนแสวงหา เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนเอง
นั้นต้องการที่จะให้มีและให้เป็น ในเรื่องของ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และความปรารถนาที่ไม่อยากจะพบกับ
ความเสื่อม ลาภ เสื่อมยศ คำนินทา ทุกข์ ปรารถนาในโลกียสุขทั้งหลาย จึงต้องดิ้นรนขวนขวาย แก่งแย่ง
แสวงหาเพื่อสนองตอบความต้องการของตัวเขาเองและพยายยามที่จะหนีจากสิ่งที่ไม่ปรารถนาให้มี ให้เป็น
ทั้งหลาย คือการไม่ยอมรับซึ่งความจริงของโลกธรรมทั้งหลาย
กระแสทางแห่งธรรม คือเส้นทางที่เดินไปสู่การละวางไม่ยึดติดและไม่ยึดถือในโลกธรรมทั้ง ๘
แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธซึ่งโลกธรรมอันเป็นกระแสแห่งโลก เพราะธรรมนั้นอยู่คู่กับโลกและโลกก็ต้องอยู่คู่กับธรรม
การอยู่เหนือกระแสแห่งโลกนั้น ก็คือการที่ไม่เข้าไปยึดติดและยึดถือในโลกธรรมทั้งหลาย พึงพอใจในสิ่งที่มี
ในสิ่งที่เป็นและสิ่งที่ควรจะได้ ได้มาก็ไม่ลิงโลดดีใจจนเกินเหตุ ไม่ได้ก็ไม่เสียใจจนฟูมฟาย ทำหน้าที่ของตน
ตามบทบาทและหน้าที่ สถานะภาพของตนเอง ทุกสิ่งอย่างนั้น ถ้าเราไม่เข้าไปยึดถือ ใจของเราก็จะไม่เป็นทุกข์
เพราะโลกธรรม ๘ นั้นเป็นเรื่องกรรมและวิบากแห่งกรรม ยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น สร้างกรรมดีในปัจจุบัน
เพื่อให้เป็นเหตุและปัจจัยที่จะส่งผลต่อไปในอนาคต กำหนดรู้อยู่กับปัจจุบันธรรม
จากสำนวนสุภาษิตที่ว่า " ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว " เกิดขึ้นก็เพราะการที่ไม่กล้าจะลงต่ำ คือทิฏฐิมานะ
อัตตา ที่เรียกว่า " ศักดิ์ศรี " มันค้ำไว้ เพราะการที่เข้าไปยึดถือในยศ ในตำแหน่ง ซึ่งมันเป็นเพียงสมมุติบัญญัติ
เป็นเพียงหัวโขนที่เขาเอามาสวมใส่ให้ ซึ่งไม่นานก็ย่ิ่อมมีการเปลี่ยนแปลง ไปตามกฏคือเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
คลื่นลูกใหม่ย่อมมาแทนคลื่นลูกเก่า เป็นไปตามกฏพระไตรลักษณ์ คือความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สิ่งที่ทำให้หนาวนั้น มันไม่ใช่ความสูงของตำแหน่งหน้าที่และชื่อเสียง แต่เป็นความยึดถือแห่งตัวตน
อันเกิดจากมานะทิฏฐิและอัตตา การประเมินค่าตนเองสูงเกินไป หลงในหัวโขนที่เขาเอามาสวมใส่ให้ ยึดถือว่าเป็น
ของจริง เป็นชีวิตจริง มองผู้อื่นต่ำไป เรียกง่ายๆก็คือการหลงตนเอง มันจึงต้องบกับความเหงา ความโดดเดี่ยว
เต็มไปด้วยความหวาดระแวง เพราะการที่ไม่ยอมลดละซึ่งมานะและอัตตา ไม่กล้าที่จะกลับคืนสู่สามัญ มันจึงทำให้
ู้สึกว่า " ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว "...ที่สุดของกระบวนท่า ก็คือการไร้กระบวนท่า
...ที่สุดของกระบี่ ก็คือการไร้ซึ่งกระบี่ เพราะกระบี่อยู่ที่ใจ
...สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ นั้นคือ จอมยุทธที่แท้จริง...
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
รวี สัจจะ- สมณะไร้นาม
๑๘ มีนาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๖.๐๐ น. ณ กุฏิทรงไทยชายน้ำ วัดบางพระ นครชัยศรี