ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีการคัดของ  (อ่าน 21308 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ เด็กนอกวัด

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
วิธีการคัดของ
« เมื่อ: 24 ธ.ค. 2551, 08:58:46 »
วิธีการคัดของเช่น พระที่ห้อย รอยสัก มีวิธีใดบางที่จะถูกคัดจะได้ระวังและมีวิธีแก้อย่างไรถ้าถูกคัดของออกแล้ว


ออฟไลน์ cho presley

  • ------> I'm Cho Presley
  • นวมะ
  • ****
  • กระทู้: 2049
  • เพศ: หญิง
  • สุดท้ายก็กาหลง!
    • MSN Messenger - cho.khalong@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - เมืองเสน่ห์กาหลง
    • Yahoo Instant Messenger - มหาเสน่ห์+เมตตา+มหานิยม
    • ดูรายละเอียด
    • http://www.khalong.com
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 24 ธ.ค. 2551, 09:00:16 »
 :010:

cho presley       

ออฟไลน์ gottkung

  • จะหมึกหรือน้ำมันไม่สำคัญ จงตั้งมั่นให้อยู่ในความดี
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 4088
  • เพศ: ชาย
  • "จะลูกใครนั้นไม่สำคัญ เป็นศิษย์ฉันเท่ากันทุกคนไป "
    • ดูรายละเอียด
    • www.gottkung.multiply.com
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 24 ธ.ค. 2551, 10:18:32 »
อันนี้ก็พูดยากอะครับ ปกติถ้าไม่ถึงฆาตจริงๆผมว่าใครก็คัดของเราไม่ได้
นอกจากว่าคนที่คัดเรานั้นเค้าเก่งจริงๆอะครับ
วิชาคัดของนี่ ว่ากันว่าถ้าท่องแล้วสำเร็จคนที่ถูกคัดจะเห็นเงาขยายใหญ่ขึ้นมารับทางปืนเลย
เท็จจริงอย่างไร ก็ต้องพิจารณาเอาครับ
เคยมีคนห้อยเหรียญหลวงพ่อเดิมแล้วโดนยิงตาย หลวงพ่อท่านก็พูดว่าถ้ามันเดินมาถึงตรงนั้นช้าอีกสองก้าว
มันก็คงไม่ตายครับ
เราเป็นศิษย์คิดมีครูดูก่อนเถิด อย่าละเมิดคำครูที่พร่ำสอน
ปุถุชนคนธรรมดาพึงสังวรณ์ ครูท่านสอนมอบสิ่งดีแก่เราๆ

ออฟไลน์ Gearmour

  • ที่ปรึกษา
  • *****
  • กระทู้: 1204
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • ลานพิศวง
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 24 ธ.ค. 2551, 10:29:30 »
คนรู้มีเยอะ
    แต่คนทำได้? ? ?
บาปกรรมครับ
   เหมือนขโมยของเค้า ให้เป็นเรื่องของกรรมดีกว่า
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
  เป็นของธรรมดา ครับ

ออฟไลน์ porpar

  • ......... ขอคุณพระคุ้มครอง ........
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1274
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 24 ธ.ค. 2551, 10:41:45 »
 :010:

ออฟไลน์ อชิตะ

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 3218
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - aston_25@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 24 ธ.ค. 2551, 11:36:15 »
คนรู้มีเยอะ
    แต่คนทำได้? ? ?
บาปกรรมครับ
   เหมือนขโมยของเค้า ให้เป็นเรื่องของกรรมดีกว่า
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
  เป็นของธรรมดา ครับ


ชัดเจนตามที่พี่บัฟแนะนำครับ  รู้ใช้ว่าทำได้  แล้วถึงทำได้ก็ใช่ว่าเป็นสิ่งดีงาม

ถ้าเป็นคอหนังสตาร์วอร์ ต้องบอกว่า ระวังด้านมืดเข้าครอบงำ ครับผม

ออฟไลน์ เด็กนอกวัด

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 25 ธ.ค. 2551, 05:13:52 »
ตัวอย่าง 1.มีอ.ท่านนึงเคยบอกว่าถ้ามีคนมีวิชาดูพระที่เราคล้องอยู่โดยที่เราไม่ได้ถอดออกก็สามารถจะคัดออกได้แต่ถ้าเราถอดให้ดูจะคัดไม่ได้
           2.ปีนหรือมีดที่ผ่านพิธีเบิกมา เช่นปีนของราชการที่ผ่านการทำพิธีมา ปืนที่ใช้ยิงเสือผาด ทับทองเข้า มีดหมอต่างๆเป็นต้น
           3.กระสุนที่ผ่านพิธี กระสุนที่จุมประจำเดือน

จะหาทางป้องหรือแก้ไขได้อย่างไร

ออฟไลน์ gottkung

  • จะหมึกหรือน้ำมันไม่สำคัญ จงตั้งมั่นให้อยู่ในความดี
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 4088
  • เพศ: ชาย
  • "จะลูกใครนั้นไม่สำคัญ เป็นศิษย์ฉันเท่ากันทุกคนไป "
    • ดูรายละเอียด
    • www.gottkung.multiply.com
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 25 ธ.ค. 2551, 08:52:48 »
กระสุนที่ผ่านประจำเดือนมานี่ เค้าว่าถ้าขลังจริงๆหรือปฏิบัติตัวดีเคร่งครัดจริงๆ
ก็ยิงไม่เข้าอยู่ดีครับ สุภาพบุรุษเสือไทท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ศุข โดนลองของคนเอาปืนอุดด้วยผ้าประจำเดือน
ยิง ก็ยังยิงไม่ออกครับ

ออฟไลน์ TTTUTTT

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 834
  • เพศ: ชาย
  • สร้างสรรค์แต่สิ่งดี
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 26 ธ.ค. 2551, 04:45:33 »
อ่านแล้วยังงงๆๆอยู่เลยครับ...
ไม่เข้าใจครับ...
คำว่า"คัดของ"คืออะไร...
วีธีการเป็นยังงัย...
 และจะมีผลเสียต่อผู้กระทำหรือผู้ถูกกระทำ...
 ถึงขั้นไหนกันครับ...
ปล.ไม่มีความรู้มาก่อนจริงๆครับ ขออภัยครับ...{^_^!}...

ออฟไลน์ gottkung

  • จะหมึกหรือน้ำมันไม่สำคัญ จงตั้งมั่นให้อยู่ในความดี
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 4088
  • เพศ: ชาย
  • "จะลูกใครนั้นไม่สำคัญ เป็นศิษย์ฉันเท่ากันทุกคนไป "
    • ดูรายละเอียด
    • www.gottkung.multiply.com
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 26 ธ.ค. 2551, 09:37:06 »
คัดของมันก็คือการเอาพุทธคุณที่รักษาตัวอยู่ออกไปน่ะแหละครับ
บางคนยิงไม่เข้าเพราะสักยันต์หรือแขวนพระ การคัดของก็เป็นการเอาพุทธคุณในรอยสักหรือในพระเครือ่ง
ที่ห้อยอยู่ให้อ่อนหรือเสื่อมลงไปน่ะแหละครับ จะได้ยิงหรือทำร้ายได้สะดวก
ผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ออฟไลน์ Hanu-Marn_Neverdie

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 535
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 26 ธ.ค. 2551, 09:45:24 »
เสือไทผมก็นับถือท่านครับ  สุดยอดจริงๆ ขนาดท่านขุนพันธ์ยังฝากตัวเป็นศิษย์

แต่คัดของนี่ในสังคมเราหากในสังคมทั่วไปไม่ค่อยมีหรอกนะครับ  

วิธีการแก้ก็ยากนะครับ  คือต้องมีดีมากกว่าเขา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26 ธ.ค. 2551, 09:46:28 โดย Hanu-Marn_Neverdie »
คุณคิดว่าวันนึง คุณตายไปกี่ครั้ง ???พระพุทธเจ้าตรัสว่า

"คนเราควรคิดว่าเรา จะตายทุกลมหายใจเข้า-ออก  "

อย่าไปคิดว่าจะทำพรุ่งนี้ :069:  แต่จงลงมือทำเลย

และจงทำทุกอย่างให้สุดความสามารถ ณ ตอนที่ยังมีโอกาส

เพื่อที่จะได้ทำความดี สิ่งดีๆ ให้แก่ผู้อื่น

ออฟไลน์ ตี๋ใหญ่50

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 69
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 26 ธ.ค. 2551, 01:06:18 »
ใช่แล้วครับผมมีกระสุนลงอาคมมาเดี๋ยวจะลงให้ดูครับพวกเขมรเขาทำ

ออฟไลน์ เด็กนอกวัด

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 27 ธ.ค. 2551, 11:07:55 »
ตัวอย่าง คนที่ถูกปืนที่ผ่านการถอนของยิงตาย

พลิกแฟ้มคดีดัง ตอน ?เสือเรียง 5 นัด? จอมขมังเวทเมืองนนท์
เป็นเพราะก่อนปล้นเขายิงปืนเป็นปฐมฤกษ์ 5 นัด หลังปล้นก็ยิงปิดท้ายอีก 5 นัด จึงได้รับการขนานนามว่า "เสือเรียง" 5 นัด ประกอบกับขึ้นชื่อด้านคาถาอาคม จนได้รับฉายาจอมขมังเวทต่อท้ายชื่อด้วย

      เสือเรียง

หากจะย้อนกลับไปก่อนปี 2499 ชื่อของ "จำเรียง ปางมณี" แทบไม่มีใครรู้จัก แต่หากจะเอ่ยถึง "เสือเรียง 5 นัด" แห่งบางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี น้อยคนจะไม่รู้จักเขาในฐานะที่เป็นจอมโจรขมังเวท ผู้ก่อคดีอย่างอุกอาจท้าทายกฎหมายบ้านเมือง โหดเหี้ยมไร้ความปรานีต่อเหยื่อ และรอดพ้นเงื้อมมือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองไปได้ราวกับปาฏิหาริย์ นี่เองจึงกลายเป็นที่มาของฉายาเสือเรียง 5 นัด จอมโจรขมังเวทแห่งเมืองนนท์


จำเรียงจะเกิดปีไหนวันอะไรไม่ปรากฏหลักฐานให้ติดตามค้นหาได้ แต่เขาเป็นลูกของพ่ออุ่มและแม่ทิม ปางมณี ณ บางเชือก อ.ตลิ่งชัน จ.นนทบุรี เขาเติบโตอยู่ที่นี่จนกระทั่งอายุได้ 23 ปี พ่อและแม่ย้ายจากบางเชือกไปลงหลักปักฐานที่บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่จำเรียงไม่ได้ย้ายตามไปด้วย เพราะเขาไปหลงติดพันกับหญิงสาวคนหนึ่ง

ความรักของจำเรียงกับสาวบางเชือกมีอุปสรรคนานัปการ ด้วยญาติผู้ใหญ่ไม่ชอบชายหนุ่มที่มีฐานะต่ำต้อยกว่า ถึงกับกีดกันไม่ให้คบหา บางครั้งก็ดูถูกเหยียดหยามเอาอย่างเจ็บแสบ จำเรียงเองในวัยหนุ่มแน่นดูเหมือนความอดทนอดกลั้นดูจะมีอยู่อย่างจำกัด ไม่นานเขาก็ตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่น ด้วยการใช้ปืนพกยิงยายของหญิงสาวผู้เป็นที่รักจนเสียชีวิต

จำเรียง ถูกจับศาลตัดสินจำคุก 20 ปี แต่หลังจากชดใช้กรรมในแดนกำแพงกรรมได้เพียง 7 ปี ก็พ้นโทษออกมา จำเรียงกลับไปอยู่กับพ่อและแม่ที่บางใหญ่ ทำมาหาเลี้ยงชีพจนมีเมีย 2 คน กับลูกอีก 8 คน ด้วยการต้มเหล้าเถื่อนขาย ธุรกิจผิดกฎหมายนี้แลกมาด้วยการจ่ายอากรบ่อนเบี้ยให้กับเจ้าหน้าที่นอกแถว ที่บ้างก็มาขอเหล้าบ้างเงินบ้างแล้วแต่ความต้องการ ณ ขณะนั้น

แม้บางครั้งบางคราเกิดข้อหาหมั่นไส้ก็จับเอาดื้อๆ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนความชินชากลายเป็นสุดจนทานทน จำเรียงหันมาจับปืนอีกครั้ง เพียงแต่เหยื่อคมกระสุนของเขาครั้งนี้เป็นถึง "เจ้าหน้าที่บ้านเมือง" !!!

นับตั้งแต่การตายของเจ้าหน้าที่คนนั้น วิถีชีวิตของจำเรียงก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาระเห็จออกจากบ้านอย่างคนมีชนักติดหลัง และรวบรวมสมัครพรรคพวกออกปล้นจี้ชาวบ้านนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พร้อมกับคำนำหน้าชื่อใหม่ จาก "จำเรียง" เป็น "เสือเรียง" แทน

เสือเรียงใช้ปืนบาเร็ตต้าเป็นอาวุธประจำกาย ก่อนปล้นเขาจะยิงปืนขึ้นฟ้า 5 นัด เป็นการเบิกฤกษ์ และก่อนพาพวกถอยหนีก็จะยิงขึ้นฟ้าอีก 5 นัด จนได้รับการขนานนามในเวลาต่อมาว่า "เสือเรียง 5 นัด"

กลางดึกวันที่ 10 ธันวาคม 2499 ราตรีเงียบสงัดผู้คนหลับไหลอยู่ในนิทรารมย์ มีเพียงเสือเรียงกับสมุนที่ตื่นขึ้นมาวางแผนปล้นบ้านของ "เซียมเง็ก แซ่โซว" ต.บางแค อ.ภาษีเจริญ จ.ธนบุรี คหบดีแห่งคลองภาษีเจริญ เสียงปืนที่ดังกึกก้องกัมปนาท 5 นัดติดต่อกัน เป็นสัญญาณให้สมุนโจรถือฤกษ์บุกปล้น ขณะเดียวกันก็ปลุกให้เหยื่อตื่นจากภวังค์

แต่ไม่ว่าเซียมเง็ก แซ่โซว และประสาร กลิ่นบัว จะพร่ำวอนร้องขอชีวิตสักเท่าใด เสือเรียงและสมุนก็หาได้ปรานีไม่ เขากระหน่ำยิงทั้งสองเสียชีวิตแล้วกวาดเอาทรัพย์สินไปกว่าหมื่นบาท ก่อนถอยหนีเขาไม่ลืมที่จะยิงปืนขึ้นฟ้าเหมือนเป็นการบอกลาอีก 5 นัดปิดท้าย

การปล้นครั้งนี้ส่งให้ชื่อเสียงด้านลบของเสือเรียงขจรขจายไปทั่ว ความเดิมยังไม่ทันคลี่คลายความใหม่ก็เกิดขึ้น เมื่อเสือเรียงนำสมุนบุกปล้นชาวบ้านและฆ่าเจ้าของบ้านตายลักษณะเดียวกันกับเซียมเง็กไม่มีผิดเพี้ยน ที่สำคัญบ้านเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเซียมเง็กเลย



     พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์

พฤติกรรมโหดเหี้ยมไร้ความปรานีแม้เหยื่อจะยอมจำนนเช่นนี้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า หนังสือพิมพ์ทุกฉบับต่างตีพิมพ์ข่าวสร้างความหวาดผวาไปทั่วทุกหัวระแหงของ จ.ธนบุรี ร้อนถึง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อธิบดีกรมตำรวจ เรียกตำรวจ 4 สน. ได้แก่ สน.บางขุนเทียน สน.ท่าข้าม สน.หลักสอง และ สน.ภาษีเจริญ ให้เร่งปราบจอมโจรรายนี้ให้ได้โดยเร็ว

การติดตามค้นหาแหล่งกบดานของเสือเรียงและพลพรรคเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ปราศจากวี่แววของเสือร้าย กระทั่งผ่านไป 2 สัปดาห์ ตำรวจจึงได้เบาะแสหนึ่งถึงแหล่งหลบซ่อนตัว ณ กระท่อมกลางสวนผลไม้ลึกเข้าไปจากจุดที่เสือเรียงพาพวกบุกปล้นสองครั้งหลัง ในเขต ต.หัวกระบือ อ.บางขุนเทียน จ.ธนบุรี บ้านของญาติที่เสือเรียงเคยอาศัยในวัยเด็กนั่นเอง

นอกจากความโหดเหี้ยมไร้ความปรานีปราศรัยแล้ว เสือเรียงยังขึ้นชื่อในด้านยิงปืนแม่นด้วย ดังนั้น ก่อนการปิดล้อมจับกุมตำรวจจึงต้องวางแผนอย่างรัดกุม ตำรวจจาก 4 สน.ร่วม 100 นาย โอบล้อมกระท่อมตั้งแต่เที่ยงคืน แล้วซุ่มดูอยู่จนสว่าง เพื่อประเมินดูฝ่ายตรงข้ามว่ามีกำลังมากน้อยเท่าไร สุดท้ายก็ได้รู้ว่าในกระท่อมนั้นมีเพียงเสือเรียงกับ เสือศิริ สงวนพันธ์ ลูกสมุนคนสนิท เพียง 2 คนเท่านั้น

เช้าตรู่ ส.ต.อ.ปลอด จันทร์งาม ตำรวจบางขุนเทียนวัย 42 ปี ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เจรจา แต่อนิจจา ! เรื่องยังไม่ทันไปถึงไหน ส.ต.อ.ปลอด ก็ถูกสังหารต่อหน้าต่อตาตำรวจนับร้อยนายที่โอบล้อมอยู่ กระสุนจากปืนบาเร็ตต้า 5 นัด พุ่งออกจากปากกระบอกตรงเข้ากลางตัว ส.ต.อ.หนุ่มเสียชีวิตทันที พร้อมกับการเปิดฉากระดมยิงใส่กระท่อมเล็ก เกิดการยิงตอบโต้อยู่พักใหญ่ เสียงคมกระสุนแหวกอากาศดังระงมกลางสวนผลไม้

10 นาทีผ่านไป นอกจากความตายของ ส.ต.อ.ปลอด แล้วยังมีเพื่อนตำรวจอีกเกือบ 100 นาย ได้รับบาดเจ็บ หลังการดวลปืนจบลงตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่ไม่ปรากฏร่องรอยของจอมโจรทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย

จากการปะทะกลางสวนผลไม้บางขุนเทียนแล้ว ยังมีการปะทะกันระหว่างตำรวจกับเสือเรียงอีกหลายครั้งหลายครา แต่เสือเรียงก็สามารถเอาตัวรอดไปได้ทุกครั้งคราเช่นกัน ทิ้งความสูญเสียให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมือง โดยมีอย่างน้อย 3 ครั้ง ที่ตำรวจเพลี่ยงพล้ำสังเวยชีวิตให้กับกระสุนเสือเรียง



"สมัยนั้นหนังสือพิมพ์สารเสรีลงข่าวเกี่ยวกับความน่าสะพรึงกลัวของเสือเรียงแทบทุกวัน ขณะเดียวกันก็มีตำรวจหลายนายออกมายืนยันบนหน้าหนังสือพิมพ์ถึงความแม่นยำในการยิงปืน ปาฏิหาริย์ และเวทมนตร์คาถาของเสือเรียง หนักสุดถึงกับว่าหายตัวไปต่อหน้าต่อตาก็มี กระสุนปืนทำอะไรไม่ได้เลย" บรรเจิด เปลี่ยนเชาว์ อายุ 79 ปี ชาวบ้านบางใหญ่ จ.นนทบุรี ระบุ

ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์ได้นำเสนอข่าว หลวงพ่อเต๋ คงทอง เกจิอาจารย์ดังจากนครปฐม ออกมายืนยันว่าเสือเรียงสามารถหายตัวไปยิ่งทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวเสือเรียงมากขึ้นไปอีก

หลวงพ่อเต๋ คงทอง


แม้ชาวบ้านจะปักใจเชื่อในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ธรรมชาติ แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้วเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเชื่อว่า เสือเรียงเพียงแต่ยิงปืนแม่นและหลบหลีกเอาตัวรอดได้เก่งเท่านั้น ทำให้รอดพ้นจากการจับกุมมาได้ตลอด ดังจะเห็นได้จากเสือเรียงถูกวิสามัญฆาตกรรมในเวลาต่อมา หลังจากตำรวจจับตายเสือศิริลูกสมุนคนสนิทแล้ว



   พลตำรวจพุ่ม ทิมเจริญ

16 เมษายน 2500ตำรวจสืบทราบว่าเสือเรียงกบดานอยู่ที่บ้านอาจารย์สักยันต์ผู้หนึ่งใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กำลังตำรวจกว่า 100 นาย ตรงเข้าปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวเอาไว้ สังเกตเห็นชายฉกรรจ์ 3 คนอยู่ในบ้าน หนึ่งเป็นอาจารย์เจ้าของบ้าน เสือเรียง ส่วนอีกคนไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ใด

ทันทีที่รู้ตัวว่าถูกปิดล้อมเสือเรียงดับตะเกียงเจ้าพายุกระโดดออกหน้าต่างลงเรือพายหนีไปทางคลองแม่ประเส่อ ซึ่งเป็นคลองลัดระหว่างคลองเสือตายกับคลองอ้อม ตั้งใจมุ่งออกคลองเสือตายเพราะเป็นคลองใหญ่

แต่เสือเรียงคงหารู้ไม่ว่ามัจจุราชกำลังจ้องคอยอยู่แล้ว อีกอย่างนอกจากฤกษ์ปล้นสะดมแล้วเขาคงห่างเหินจากการดูชะตาชีวิตตัวเอง ดังนั้นหลังจากลงเรืออีแปะได้ไม่นานเสือเรียงก็ถูกคมกระสุนจาก พลตำรวจพุ่ม ทิมเจริญ เสียชีวิตอยู่บนเรืออีแปะนั่นเอง

สภาพศพเสือเรียงกำปืนบาเร็ตต้าคู่กายเอาไว้แน่น กระสุนอีกจำนวนมาก ข้างเอวปรากฏปืนออโตเมติกโคลท์ 9 มม. กระสุนเต็มแมกกาซีน บนผมเหน็บหวีอยู่ 1 อัน บริเวณคอแขวนพระเครื่องกว่า 20 องค์เป็นพวงใหญ่ นับจากวันนั้นชื่อเสียงของเสือเรียงก็สูญหายไปทุกวินาทีที่เวลาล่วงผ่านไป

สิ้นลายด้วยปืนเจ้า

บรรเจิด เปลี่ยนเชาว์เล่าว่า ครั้งหนึ่งมีคนเคยแต่งเพลงเกี่ยวกับทุ่งบางพลี เนื้อบางตอนว่า "บางพลีเมื่อก่อนเคยมีเสือร้าย บัดนี้มันก็วอดวาย สิ้นลาย" ซึ่งเสือร้ายในที่นี้หมายถึง "เสือเรียง 5 นัด" หรือ จำเรียง ปางมณี ที่ถูกตำรวจบางพลียิงตายไปเมื่อปี 2500

พลตำรวจพุ่ม ทิมเจริญ ใช้อาวุธประจำกายเป็นปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ 66 ซึ่งคนสมัยเก่ารู้ดีว่าเป็นปืนโบราณหรือที่เรียกกันติดปากว่าปืนเจ้า เคยผ่านการทำพิธีรดน้ำพระพุทธมนต์พลวง หลังจากสั่งซื้อมาจากต่างประเทศในรัชสมัยรัชกาลที่ 6 ทำให้เชื่อกันว่าปืนชนิดนี้มีพลานุภาพ สามารถยิงทำลายขุนโจรที่มีคาถาอาคมของลงอักขระของขลังได้ชะงัดนัก

สาเหตุที่มีการประกอบพิธีรดน้ำพระพุทธมนต์หลวง โดยรัชกาลที่ 6 ทรงประกอบพิธีด้วยพระองค์เองก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทหารไทย ที่จะถือปืนชนิดนี้เป็นปืนประจำกายเข้ารณรงค์สงครามยุโรป


ทีมข่าวรายงานพิเศษ เรื่อง /หอสมุดแห่งชาติ ภาพ 
อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ธ.ค. 2551, 11:09:50 โดย เด็กนอกวัด »

ออฟไลน์ king_64

  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 87
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 28 ธ.ค. 2551, 02:47:18 »
 :016: :053: :015:

ออฟไลน์ เด็กนอกวัด

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ตอบ: วิธีการคัดของ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 23 ม.ค. 2552, 05:30:26 »
สมัยที่เสือขาวจะถูกยิงเป้านั้น (เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติ***มโหดมากฆ่าได้แม้กระทั่งเด็กแรกเกิด เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ "ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จังหวัดฉะเชิงเทรา") หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวตอนนั้นกำลังทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ ทำอันตรายเสือขาวได้เลย ปืนก็ยิงไม่ออก มีดก็แทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งซึ่งเป็นอาจารย์ของตัวเอง ตำรวจชุดไล่ล่าซึ่งประกอบด้วย ร.ต.อ.พจน์ รัตนดิลก จ่าบุญมี แก่นกระโทก จ่าดวง เดชชาติ ได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันจะเป็นการผิดศีล"

 

            ตำรวจชุดไล่ล่าลาหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ มีดหมอต้องเป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งหลวงพ่อโศกเป็นพระสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" สมัยก่อนนั้นมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปาคลองยังพอที่จะหาได้ไม่เหมือนในเวลานี้ ซึ่งหามีดหมอของท่านไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งหาได้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นของแท้หรือเปล่า เพราะของปลอมมีแยะเหลือเกิน ทำได้เหมือนของจริงจนแยกแยะไม่ออก เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวมันก็เกินพอที่จะทำให้เสือขาวถึงกับทรุดท้องทะลุแม้ว่าจะไม่ตายแต่ก็คางเหลืองสิ้นลายของคำว่า "จอมโจรหนังเหนียว" นับตั้งแต่บัดนั้น เสือขาวถูกพิพากษาโทษให้ประหารชีวิต (ยิงเป้า) ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก ทุกนัด  ครับ