34
« เมื่อ: 23 ก.พ. 2551, 09:41:38 »
ประวัติหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
วัดบ้านกรวด เป็นวัดเก่าแก่ประจำ อำเภอ บ้านกรวด ตั้งขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี มีอายุนับถึง ปัจจุบันไม่น้อยกว่า 120 ปี ได้รับพระราชทาน วิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 เมษายน พุทธศักราช 2469 มีประพุทธรูปศิลา อันศักดิ์สิทธิ์ เป็นประธานในพระอุโบสถ มีเจ้าอาวาสครอง วัดติดต่อกันมานับถึงปัจจุบันรวม 4 รูปด้วยกัน เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันคือ พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์ หรือ หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ .ซึ่งได้บวชเรียนมาตั้งแต่อายุได้ 22 ปี เป็นต้นมานับถึงปัจจุบัน 97 ปี นับพรรษา ได้ 76 พรรษา เมื่อครั้งอดีตสมัยท่านเป็นพระหนุ่มๆ ท่านได้ออกจาริกแสวงบุญไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งทางพระเวทย์ วิชาแพทย์แผนโบราณต่างๆ ตามความเชื่อ และความนิยมของชาวพื้นบ้าน ในสมัยนั้น ได้ไปศึกษาเล่าเรียนเวทวิทยาอาคมที่จังหวัดอุดรมีชัย ถึง 3 ปี (ในสมัยนั้น จังหวัดอุดรมีชัย ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย ) จากนั้นท่านได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ แทบจะทุกภาคของไทยและประเทศใกล้เคียง เคยธุดงค์ไปศึกษาวิชาอาคมที่นครวัต ที่ประเทศเขมร เป็นเวลา 8 ปี จนมีความรู้เจนจบในไสยเวททุกแขนง แตกฉานในวิปัสสนากรรมฐาน อย่างแจ่มแจ้ง ต่อมาเมื่อท่านมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับถวายที่ดินจากชาวบ้าน จากนั้นท่านก็ได้บูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า จนเป็น “วัดตาอี” ให้เห็นเป็นรูปธรรมในปัจจุบัน สืบต่อมา หลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด ได้มรณภาพลง ชาวอำเภอบ้านกรวด จึงได้นิมนต์ หลวงปู่ผาด มาเป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงปู่ได้ปฏิเสธการเป็นเจ้าอาวาส วัดบ้านกรวด มาโดยตลอด แต่ในที่สุดท่านก็ทนแรงศรัทธาของญาติโยมไม่ไหว จึงต้องยอมรับ เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด และดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบันในที่สุด หลวงปู่ผาด ท่านได้พัฒนา วัดสาขาของท่านถึง 4 แห่ง ก็คือ วัดตาอี,วัดบ้านปราสาท,วัดบ้านบึงเก่า และวัดบ้านกรวด เป็นรูปเป็นร่างมาจน ถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระที่รักสันโดษ ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ท่านได้ปฏิเสธ ในการสร้าง วัตถุมงคล มาโดยตลอด แต่บรรดาศิษยานุศิษย์ได้รบเร้า หลวงปู่ว่า มีผู้เลื่อมใสศรัธา ในตัวหลวงปู่ ประสงค์อยากจะได้วัตถุมงคลของหลวงปู่ผาดไว้บูชา เพื่อเป็นสิริมงคล เป็นขวัญและกำลังใจในการดำเนินชีวิต หลวงปู่ท่านก็เลยอนุญาต ให้จัดสร้าง วัตถุมงคล ที่ออกมาภายใต้ชื่อ หลวงปู่ผาด จึงออกมาน้อยมาก ดังนั้นคนที่มีอยู่ต่างหวงแหน ไม่ค่อยหลุดออกมาให้เห็นกัน ทำให้วัตถุมงคลรุ่นเก่าๆ ของท่าน หายากขึ้นเป็นเงาตามตัว ด้วยหลวงปู่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของพุทธศาสนา โดยแท้ ทุกลมหายใจเข้าออกท่านกำหนดจิตด้วยกรรมฐานมีสติอยู่เสมอ วัตถุมงคล ที่ผ่านการอธิฐานจิตจากท่านจึงทรงความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งบุญญาฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ ดุจมีแก้วสารพัดนึก ใครมีโอกาส ได้ครอบครอง ขอให้เก็บไว้บูชาดีๆ เพราะท่านเคยพูดกับศิษย์บ่อยๆ ว่า “อีกหน่อยพระของเราจะเป็นเพชร” จากอมตะวาจาของหลวงปู่อนาคตจึงไม่ต้องพูดถึง เพราะต่างทราบกันดีว่า หลวงปู่ท่าน “วาจาสิทธิ์” เป็นยิ่งนัก เอาเป็นว่าอนาคตอันใกล้คงต้องได้เห็นอย่างแน่นอน เดี๋ยวนี้ไม่ต้องรอนานเหมือนอดีต “ของดี”มีประการณ์ ประเดี๋ยวก็มีคนถามหากันเอง! หลวงปู่ผาด ท่านเป็นพระแท้ที่กราบไหว้ได้สนิทใจสมกับ “พุทธบุตร” โดยแท้ ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังพระภิกษุอย่างหลวงปู่ผาดไม่ควรจะเป็นของอำเภอบ้านกรวดเพียงอย่างเดียวควรเป็นของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เปรียบดังช้างเผือกในป่า น่าจะมาเป็นช้างคู่บ้านคู่เมือง จึงจะถูกต้อง สมกับพระบารมีของท่านเป็นอย่างยิ่ง กิตติคุณความเป็นผู้ทรงวิทยาพุทธาคม แม้แต่ “นักบุญแห่งภาคอีสาน” จ้าวตำรับ “กูมึง” ขนานแท้ (แม้แต่พระองค์อื่นจะใช้บ้างก็ไม่น่าพิสมัยเท่าท่าน) ยังกล่าว ยกย่องเชิดชูกับคณะศรัทธาบุญจากอำเภอบ้านกรวด ที่ได้เดินทางไปกราบนมัสการท่านที่วัด เมื่อท่านสอบถามรู้ความว่าเดินทางมาจากอำเภอบ้านกรวด ท่านถึงกับออกปากพูดว่า “มึงจะมากราบมาเอาของกูทำไม มึงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่วัดบ้านกรวดโน่นของท่านศักดิ์สิทธิ์กว่าของกูตั้งเยอะพวกมึงไม่จำเป็นต้องมาใช้ของกูเลยของดีอยู่กับท่านยังไม่รู้ค่าอีก” สำหรับประโยคคำพูดจากปากยอดพระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนเคารพกราบไหว้ทั้งประเทศคงยืนยัน คุณวิเศษ ในองค์หลวงปู่ผาดได้อย่างดี เป็นแน่แท้พระระดับนี้ท่านยังเทิดทูนอภิวาทหลวงปู่ผาด แล้วเราๆท่านๆจะลังเลอยู่ไยล่ะครับ
พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ เป็นพระเครื่องชุดสำคัญอีกชุดหนึ่ง ที่ได้ผ่านการอธิฐานจิตแผ่พุทธคุณจาก หลวงปู่ผาด ท่านได้มอบพระชุดนี้ทั้งหมดให้วัดบ้านบึงเก่านำไปบูรณะวัด และวัดบ้านบึงเก่าเป็นวัด 1 ใน 4 วัดที่หลวงปู่ผาดดูแล และรับผิดชอบอยู่ ซึ่งมีพระอธิการชวน ชาครธัมโม เป็นเจ้าอาวาส และเป็นศิษย์เอกที่หลวงปู่ผาดไว้วางใจรูปหนึ่ง เมื่อความที่หลวงปู่ผาด ท่านเขียนวันปบงสังขารของท่านไว้ล่วงหน้าแล้วพับเก็บไว้ใต้หมอน บังเอิญพระที่ทำความสะอาดกุฏิหลวงปู่ผาดไปพบเข้า “ความแตก” ชาวบ้านร้องห่มร้องไห้กันระงม ขอให้หลวงปู่ผาดท่านอย่าด่วนละสังขาร ขอให้อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานต่ออีกเถอะ หลวงปู่ผาด ท่านก็รับปากบอกว่าจะอยู่ให้อีกระยะหนึ่ง ครั้งนั้นก็ได้ พระอธิการชวน เป็นกำลังสำคัญในการทำพิธีสืบชะตาของหลวงปู่ผาด สำหรับพระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณเป็นพระเครื่องที่จัดสร้างเป็นครั้งแรกในรูปแบบองค์ สัมมาสัมพุทธเจ้า ที่หลวงปู่ผาด อธิฐานจิตบรรจุเวทวิทยาคม เป็นปางแรกของพระพุทธองค์เมื่อตรัสรู อนุตตรโพธิญาณ พระพุทธองค์ท่านได้ยกมือพนมทำความเคารพ โลกุตระธรรม ที่ท่านพบจนสำเร็จเป็นมหาศาสดาเอก ซ้ายขวาเป็นพระอินทร์กับพระพรหม ที่เสด็จลงมาอนุโมทนาสรรเสริญ พระอินทร์เป่าสังข์ก้องกังวานไปทั่วอนันตจักรวาลทั้ง 3 ภพ ให้รับรู้ว่าบัดนี้ ได้มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว บันดาลให้เกิดเหตุมหัศจรรย์บังเกิดขึ้น เกิดแผ่นดินไหวทั่วปฐพี เสียงกึกก้องกัมปนาท ลมพายุพัดแรงเสียงอื้ออึ้งสะท้านไปทั่วพิภพ สัตว์น้อยใหญ่ในป่าพนาไพรทั้งหลายที่เป็นศัตรูต่อกันก็พลันกลับกลายเป็นมิตรชิดเชื้อสนิทสนม มีจิตเมตตาไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน เหล่าวิหกนานาชนิดต่างโผผินบินลอยละล่องเริงร่า ดาดาษกลาดเกลื่อนเป็นฝูงๆ เต็มท้องฟ้า ต่างบินวนเวียนเป็นทักษิณาวัตร เป็นรัศมีวงกลม แสดงอาการว่าได้ถวายบังคม พระบรมศาสดา ขณะนั้นพระวรกาย ก็บังเกิดฉัพพรรณรังสี 6 ประการ เปล่งประกายแผ่ขยายจากพระวรกายเป็นสายรุ้งมีรัศมีแผ่กว้างสว่างไสวไปทั่วทั้ง 3 โลก ต้นไม้น้อยใหญ่ ในป่าพงไพรก็ผลิดอกออกผลนอกฤดูกาล เบ่งบานเต็มต้น ทุกกิ่งก้าน ชูช่อสวยงามตะการตาเป็นยิ่งนัก เหล่าทวยเทพทั้งปวงในหมื่นโลกธาตุจักรวาล เปล่งปลั่งสำเนียงไพเราะอวยพรถวายพระพรชัย พร้อมโปรยปรายดอกไม้มณฑาทิพย์จากสรวงสรรค์ตกลงมาเต็มปริมณฑลท่วมท้นถึงรัตนะบัลลังก์ เป็นเหตุมหัศจรรย์ครั้งยิ่งใหญ่ในโลกมนุษย์ เป็นการเฉลิมฉลองแห่งการตรัสรู้แห่งพระพุทธรัตนะมหาอนันตชิน ปางนี้จึงเป็นปางสำคัญอีกปางหนึ่งของพระพุทธองค์ที่เราควรมีไว้อภิวาท เป็นปางสำเร็จเลื่อนจากมนุษย์สู่มหาศาสดา อิทธิคุณในพระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ น่าจะดีทางชัยชนะในกิจทั้งปวง ศรตรูเป็นมิตร เป็นที่เคารพรักใคร่ของมนุษย์ อมนุษย์และเทพเทวา ทำกิจอันใดก็เจริญรุ่งเรื่อง ฯลฯ ก่อนที่ พระอธิการชวน จะมอบพระชุดนี้ออกมาให้ประชาสัมพันธ์ หลวงปู่ผาด บอกท่านว่า “พระยอดขุนพล” นี้ มีเทวดารักษาทุกองค์ ให้บูชาดีๆ สวดมนต์ถวายทุกคืนได้ยิ่งดี เพราะเทวดาท่านโปรดการสวดมนต์ และให้สังเกตความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ท่านบอกมาอย่างนั้นจะจริงเท็จประการใด ผู้บูชาเท่านั้นที่รู้ กรรมวิธิปลุกเสก หลวงปู่ผาด ท่านอธิฐานบรรจุคุณพระ ในกุฏิของท่านเงียบๆ เพียงองค์เดียว หรือที่วงการพระเรียกว่า เสกแบบบินเดี่ยว เป็นเวลานานถึง 7 สัปดาห์ ว่ากันว่าเต็มที่อย่างจุใจ ไม่ต้องมารีบเสกรีบขายเหมือนหลายสำนักที่ทำกัน ดังนั้นวัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของจริง สามารถพึ่งพิงได้อย่างอบอุ่นใจ ปลุกเสกแบบพระป่าบ้านนอกไม่มีปะรำ พิธี พิธีบรรจุพุทธคุณของหลวงปู่ผาด จึงต้องใช้กุฏิเป็นปะรำพิธีแทน และมีเพียงธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเท่านั้น วัตถุมงคลที่ผ่านการอธิฐานแผ่พุทธคุณจากท่าน จะแรงและดีขนาดไหน ต้องลองไปถามชาวอำเภอบ้านกรวดดูได้ เพราะพวกเขามีโอกาส ใช้พระหลวงปู่ผาด ก่อนเราๆท่านๆ ความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคลต่างๆใช่ว่าพระสวยพิธียิ่งใหญ่อลังการแต่อย่างใด ที่สำคัญคือ ตัวผู้เสกต่างหากว่าท่านเก่งจริงไหม? หลวงปู่ผาดท่านเป็นประเภทคมในฝัก หรือ ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ท่านเป็นพระบริสุทธิ์ น่าเคารพนับถือ เป็นครูบาอาจารย์ยิ่งนัก ขนาดท่านรู้วันปลงสังขารของตนเองล่วงหน้า “จะมีกี่รูปในแผ่นดินนี้” พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ เกิดขึ้นจากมวลสารผงอิทธิเจ,ผงปัทมัง,ไม้โพธิ์นิพพานวันอังคาร ใบโพธิ์นิพพานหงายทิศตะวันออก 108 วัด,ว่าน 108 ,เกสร 108 ,ใบลานเผา,อิฐดอกจันทร์ค่ายบางระจัน,แร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย พระแม่ธรณีหน้าวิหารอาจารย์คง วัดแค,ศิลายอดปราสาท,ผงตะไบเกศพระพุทธรูปโบราณ ,ผงตะไบดาบโบราณ,ผงพระแตกหัก เทวรูปชำรุดต่างๆ,ว่านสบู่เลือด,ไพรดำ,เพชรหลีก ฯลฯ ด้วยความวิริยะอุสาหะของ พระอธิการชวน และบรรดาศิษย์ ที่ได้รวบรวม มวลสารต่างๆ มาจากทั่วสารทิศ ผงจากครูบาอาจารย์ทั่วประเทศ เพื่อนำมาทำวัตถุมงคล “พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ” ครั้งนี้โดยเฉพาะ “ดีทั้งนอก ดีทั้งใน” พูดได้เต็มปาก ไม่ได้คิดหลอกให้ท่านกราบไหว้"ปูน” กัน ขนาดมีข่าวรำลือกันว่า คืนแรกที่ หลวงปู่ผาด ปลุกเสก พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ มีชาวบ้าน ฝันว่า....เห็นพระอินทร์ พระพรหม เทพเทวดา นางฟ้า รัศมีสว่างไสวมากันเต็มวัด พร้อมยังมีนักรบโบราณทรงช้าง ทรงม้ากรีฑาทัพเข้ามากันกันในวัดอย่างเป็นระเบียบ สง่าน่าเกรงข่ามสวยงามยิ่งนัก ทุกคนใส่ชุดสีแดง อาวุธครบมือ ตนจึงเข้าไปถามว่า...มาวัดกันทำไม นักรบในชุดแดงบอกว่า ... จะมาช่วยหลวงปู่ผาด ทำพระอนุโมทนาบุญร่วมกับท่าน ถ้าท่านมีโอกาสก็อย่าลืมแวะไปกราบท่าน ผมมั่นใจว่าจะหาพระเก่งๆแบบนี้ยาก ผมกล้ายืนยันว่าท่านไม่เป็นสองลองใครในอีสานใต้
http://www.itti-patihan.com
[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]