:054:การปฏิบัติธรรมคือการทำหน้าที่ของเราให้สมบูรณ์ และหน้าที่นั้นต้องเป็นโดยชอบ ประกอบด้วยกุศล เป็นมงคลต่อชีวิต ไม่เป็นพิษต่อผู้อื่น ไม่ฝ่าฝืนศีลธรรมประเพณีที่ดีงาม ดำเนินตามคำสั่งสอนของพระศาสดา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเป็นไปตามลำดับและขั้นตอน
ปัญหาที่เกิดสำหรับสำหรับผู้ที่อยากจะปฏิบัติธรรมก็คือเรายังไม่รู้จักตนเอง ไม่รู้จักประมาณในตน ไปหวังผลถึงคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
ลืมบทบาทและหน้าที่ของตัวเราเอง ธรรมะคือความเหมาะสม ในจังหวะ เวลา โอกาศ สถานที่ และต้องมีความพอดี ไม่เกร็ง ไม่เคร่ง ไม่เครียด
จนเกินไป จนกลายเป็นการกดดันตัวเอง เพราะเราไปเคร่งจนเกินไป เลยทำให้เกิดความเครียด
การปฏิบัติธรรมต้องเริ่มที่คุณธรรมคือต้องมีจิตสำนึกแห่งการใฝ่ธรรมเสียก่อน และอย่าใจร้อนหวังผลในทันทีทันใด ต้องเริ่มต้นไปตามลำดับ
และขั้นตอน สั่งสมอบรมจิตของเราไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจากการฝึกให้มีสติเสียก่อน มีสติกับสิ่งที่จับต้องและเห็นได้ คืออาการความเคลื่อนไหวของร่างกายในทุกอริยาบท เรียกว่าฝึกใจให้มันอยู่กับเนื้อกับตัวให้ได้เสียก่อน จนมีความชำนาญ ใจไม่ฟุ้งซ่านเพราะจิตที่ส่งออก แล้วจึงค่อย
ยกจิตเข้าสู่การภาวนา
การภาวนานั้นเราทำเพื่อให้เกิดความสงบ สิ่งที่จะตามมาก็คือ"สมาธิ" จิตที่สติมีกำลัง ย่อมส่งผลไปยังสมาธิที่มั่นคง และเมื่อจิตพบความสงบ การเป็นระบบในการคิดก็จะตามมา การรู้จักวิเคราะห์ปัญหาก็จะเกิด โดยการรู้จักเหตุและผล ไม่เอาความรักความชอบความชังของตนมาตัดสิน มองทุกอย่างตามความเป็นจริง เห็นทุกสิ่งที่มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป เห็นทุกข์ เห็นภัย เห็นโทษ เห็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ และไร้
ประโยชน์ในสรรพสิ่ง ได้รู้เห็นความจริงคือ"สัจจะธรรม"
ฉนั้นการทำงานที่เรามีสติอยู่กับการเคลื่อนไหว ทำงานไปโดยมีสตินั้น ก็คือการปฏิบัติธรรม
:016:นำเสนอมาเพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับการปฏิบัติธรรม
ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ผู้ที่ใฝ่ธรรม
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒ เวลา ๒๑.๕๙ น. ณ ริมฝั่งโขง ชายแดนประเทศไทย