นั่งทบทวนพิจารณาเรื่องกระแสนิยม มงคลตื่นข่าวของชาวไทย
ซึ่งอ่อนไหวและเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วตามกระแสสังคม
ว่าอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เป็นไปเช่นนั้นคือการคล้อยตามกระแส
จึงพอจะรู้และเข้าใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น มันมีที่มาจากจริตของคนไทย
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น"ศรัทธาจริต"มีจิตใจที่อ่อนไหวเชื่ออะไรได้ง่าย
และมีพื้นฐานจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก และระบบการศึกษาของไทย
ที่สอนให้ เชื่อฟัง และทำตามผู้ใหญ่ และจดจำในสิ่งที่สอน ที่สั่ง
ทำให้เกิดการเคยชินในระบบความคิดและความจำเมื่อรับรู้ข้อมูลข่าวสาร
เพราะสังคมการศึกษาและวิถีชีวิตของคนไทยนั้นไม่ได้สอนเรื่องเหตุและผล
ไม่ได้สอนให้คิดค้น วิเคราะห์ และพิจารณา สอนแต่ให้จำได้หมายรู้เพียงอย่างเดียว
เมื่อได้พิจารณาจนได้รู้และเข้าใจ จิตก็คลายสงสัยเพราะรู้ว่า"มันเป็นเช่นนั้นเอง"
เวลาส่วนใหญ่ในตอนกลางวัน......
หมดไปกับงานโยธากรรมฐาน การทำงาน บริหารคน บริหารงาน
ประสานให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีปัญหาและอุปสรรค์
โดยใช้หลักการคิด วิเคราะห์และวางแผนการทำงานไว้ล่วงหน้า
มองงานทุกอย่างให้ละเอียดให้ชัดแจ้งในองค์ประกอบของงาน
ว่ามีขบวนการในการกระทำเป็นอย่างไร ใช้วัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง
ต้องใช้แรงงานมากน้อยขนาดไหน ปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้มีอะไรบ้าง
ซึ่งเราต้องคิดและวางแผนไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะลงมือทำงานทุกครั้ง
คิดที่ละเรื่อง ที่ละอย่าง ให้มันจบเป็นเรื่องๆไป แล้วบันทึกไว้ในส่วนของความจำ
คือมองภาพกว้างๆแล้วมาแยกแยะออกเป็นอย่างๆเป็นเรื่องๆไป
โดยให้ความสำคัญที่เหตุและปัจจัย ว่าอะไรควรทำก่อน และทำที่หลัง
ทำในสิ่งที่คิดและทำได้ในทันที เพราะมีเหตุและปัจจัยที่พร้อม
เวลา โอกาศ สภาพดินฟ้าอากาศ และความพร้อมของบุคคลากร
ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเหตุและปัจจัย ซึ่งเราได้วางแผนงานไว้
และมีแนวทางของการแก้ไข้ไว้ล่วงหน้า ถ้าเกิดมีอุปสรรค์และปัญหาขึ้นมา
ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากการฝึกคิด ฝึกพิจารณา โดยการมีสติและสมาธิเป็นพื้นฐาน
คือการทำจิตให้นิ่ง แล้วจะมองเห็นทุกสิ่งอย่างละเอียดและชัดเจน
ทุกอย่างสามารถที่จะฝึกฝนกันได้ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
ขอเพียงเราเริ่มต้นและลงมือทำ.........
:059:แด่การฝึกฝนหาเหตุและผลของสรรพสิ่งรอบกาย
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-กลุ่มยุทธธรรมสัญจร
๑๐ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๐๗.๐๐ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายแดนประเทศไทย