"ไม่ควรใส่ใจคำพูดแสลงหูของผู้อื่น
ไม่ควรแส่มองธุระที่เขาทำและยังไม่ทำ
ควรตั้งใจตรวจตราธุระของตนนี่แหละ
ทั้งที่ทำไปแล้วและยังไม่ได้ทำ"
"น ปเรสํ วิโลมานิ น ปเรสํ กตากตํ
อตฺตโน ว อเวกฺเขยฺย กตานิ อกตานิ จ"
พุทธสุภาษิต ธรรมบท ๒๕/๑๙
.......................................
"เมื่อบุคคลไม่ประมาทแล้ว กุศลธรรมที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น
และอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วย่อมเสื่อมไป"
"อปฺปมตฺตสฺส อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ
อุปฺปนฺนา จ อกุสลา ธมฺมา ปริหายนฺติ"
พุทธสุภาษิต เอกนิบาต ๒๐/๑๑
........................................
"ผู้มีปัญญาย่อมเว้นสิ่งไม่เป็นประโยชน์
และถือเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์"
"อนตฺถํ ปริวชฺเชติ อตฺถํ คณฺหาติ ปณฺฑิโต"
พุทธสุภาษิต ปัญหาสูตร ๒๑/๕๔
................................................
เดินทางถึงจังหวัดสุราษฎร์เวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น.ของวันที่ ๑๑ ตุลา
เพราะว่ามีเพื่อนๆสมัยเรียนมัธยมด้วยกันนิมนต์เอาไว้เพื่อจะได้พบปะกัน
เป็นเวลานานมากแล้วที่ไม่ได้เจอกันซึ่งบางท่านนานถึง ๓๐กว่าปีตั้งแต่สมัยจบมัธยม
ที่มีความสนิทสนมกันมากนั้นก็เพราะเรียนมาด้วยกันอย่างน้อยท่านละ ๓ ปีเป็นอย่างน้อย
ซึ่งในสมัยนั้นทุกคนต้องเรียนร่วมกัน(เป็นการเดินเรียนตามห้องต่างๆไม่มีห้องประจำ)
และเป็นโรงเรียนชายล้วนจึงทำให้สนิทสนมกันในบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นสมัยนั้นเกือบทุกคน
และการที่เป็นนักกีฬาตัวแทนของโรงเรียนในเกือบทุกประเภทจึงเป็นที่รู้จักของทุกคน
จึงมีการโทรศัพท์บอกข่าวการเดินทางมาของเรากันในบรรดาเพื่อนๆร่วมรุ่นร่วมสถาบัน
ได้พบปะพูดคุยสนทนากันตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเวลาประมาณ ๐๒.๓๐ น.ของวันใหม่
มีเพื่อนๆมาร่วมพูดคุยกันประมาณ ๓๐ กว่าท่าน โดยสลับกันมาหลังจากเสร็จภาระกิจหน้าที่ของตน
จนเหลือชุดสุดท้ายที่คุยกันจนถึงตีสองกว่าอยู่ ๘ คน ร่างกายอ่อนเพลียเพราะไม่ได้พักผ่อนจึงต้องแยกย้ายจากกัน
ตื่นนอนตอนตีสี่ ทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จแล้วนั่งกำหนดพิจารณาธรรม โดยยกเหตุการณ์ที่ผ่านมาเป็นหัวข้อพิจารณา
ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งที่เป็นจริงและเห็นได้ชัดเจน ทั้งสถานที่และตัวบุคคล ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
แต่สิ่งที่ดำรงค์ทรงไว้คือความรู้สึกที่ดีต่อกัน ความสัมพันธ์ของเพื่อนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังเกาะกลุ่มรวมตัวกันเหมือนเดิม
ยินดีในหมู่คณะที่ยังคงเอาใจใส่ช่วยเหลือกันไม่ทอดทิ้งกัน คนที่ประสพความสำเร็จก็คอยช่วยเหลือเพื่อที่ยังไม่ประสพความสำเร็จ
เป็นภาพแห่งมิตรภาพที่ดีงามของความเป็นเพื่อน ไม่ใช่เพียงคนที่รู้จักกัน มันเป็นความผูกพันธ์ที่เกินจะบรรยายเป็นข้อความหรือคำพูดได้
เวลาประมาณ ๐๕.๓๐ น.เพื่อนๆนำอาหารเช้ามาถวายและมาส่งกันหลายท่าน ก่อนที่จะแยกย้ายไปทำงานตามภาระกิจหน้าที่ของตน
ออกจากที่พักเวลา ๐๗.๐๐ น.แวะไปเจิมร้านอาหารให้เพื่อนในตัวเมืองและแวะไปเจิมรถให้รุ่นน้องที่กองกำกับตำรวจภาค ๘
แวะที่สวนโมกขพลาราม กราบรำลึกนึกถึงหลวงพ่อพุทธทาส ขอบคุณธรรมะและสถานที่เพราะเคยได้อยู่อาศัยและได้ปฏิบัติธรรมมา
แวะไปกราบพระธาตุไชยาแล้วออกเดินทางต่อไปแวะฉันเพลที่สวนส้มโชกุนของนายดำ ดูธรรมชาติและการจัดสวนจัดสถานที่
เพราะว่าสวนนายดำแห่งนี้เป็นสวนที่ได้รับรางวัลห้องน้ำคุณภาพแห่งปี ซึ่งเขาจัดสถานที่ได้สวยงามเป็นธรรมชาติได้ดีมาก
ออกจากสวนส้มนายดำแวะเข้าไปเที่ยวชมด่านสิงขรชายแดนประเทศไทยที่ติดกับประเทศพม่า เดินดูสินค้าที่เขานำมาวางขายกัน
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกล้วยไม้และของใช้ที่ทำมาจากไม้ที่นำมาวางขาย ส่วนของที่ระลึกอื่นๆนั้นส่วนใหญ่เหมือนกันกับทุกชายแดน
ออกจากด่านสิงขรแวะกราบหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่วัดห้วยมงคล ฝนตกลงมาเล็กน้อย ร่วมบุญอนุโมทนาในบารมีของท่านเจ้าสำนัก
ที่สามารถสร้างวัดได้สวยงามและกว้างขวางใหญ่โตจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่มรื่นและสวยงามมีผู้เข้าเยี่ยมชมไม่เคยขาด
ด้วยบุญบารมีของมหาโพธิสัตว์องค์หลวงปู่ทวดที่ได้อธิษฐานไว้ ไม่เคยเสื่อมสลายจึงได้บังเกิดสัมฤทธิ์ผลแก่ผู้คนที่เคารพศรัทธา
ออกจากห้วยมงคลแล้วแวะมาที่อำเภอดำเนินสะดวกเพื่อมารับผ้าที่จะนำไปทำผ้าม่านหลังพระประธานที่โยมเขามีศรัทธาถวาย
กลับถึงวัดบางพระเวลาประมาณ ๒๒ .๐๐ น.นั่งคุยสนทนากันจนเวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น.จึงขอตัวจำวัตรเพราะว่าร่างกายอ่อนเพลีย
นอนกำหนดภาวนาและพิจารณาธรรมจากการเดินทางที่ผ่านมา หลับไปตอนไหนไม่สามารถที่จะกำหนดเวลาได้เพราะร่างกายอ่อนเพลีย
ตื่นนอนมาตอนเวลา ๐๔.๐๐ น.ตามเวลาปกติที่เคยตื่นมา นั่งพิมพ์ถึงการเดินทางที่ผ่านมาจนใกล้จะจบ คอมฯเกิดแฮงค์ดิสส์มีปัญหา
งานที่กำลังเขียนมาหายหมด...จึงต้องนั่งกำหนดเขียนขึ้นมาใหม่ เพื่อจะได้เป็นการเล่าสู่กันฟัง......
:059:เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต-แด่มิตรสหายตามรายทาง
รวี สัจจะ-สมณะชายขอบ
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๖.๓๒ น. ณ กฏิทรงไทยชายน้ำวัดบางพระ นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม