ครั้งหนึ่ง อูนุมาเมืองไทยแล้วจะไปอยู่อยุธยา ต้องมีหน่วยอารักขา กลัวชาวอยุธยาจะมาเล่นงาน อูนุแกไม่ได้รู้เรื่อง แกไม่ได้มีส่วนมาเผากรุงศรีอยุธยาอะไรแม้แต่น้อย ไอ้พวกเผากรุงศรีอยุธยา ตายตกนรกยังไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดสักคนเดียว แล้วเราจะโกรธคนสมัยใหม่ได้อย่างไร ถ้าเราจะโกรธ โกรธให้มันถูก
โกรธอะไร โกรธกิเลสสิ ไอ้นี่แหละที่ควรจะโกรธ ควรจะฆ่า ควรจะโกรธความโลภ ความโกรธ ความหลง ความริษยาพยาบาท ความแข่งดี ความถือตัว เรียกว่ากิเลสทุกประเภท เป็นเรื่องน่าโกรธ น่าเกลียด แล้วน่าฆ่ามันเสียเลย อย่าเอาไว้
กิเลสที่ควรฆ่า มันอยู่ที่ไหน อยู่ที่ตัวเรานั่นแหละ สำคัญนักหนา เราดูว่าตัวเรามีอะไร ฆ่ามันเสีย ฆ่าความโลภ ฆ่าความโกรธ แล้วเราก็สบาย
เคยมีคนไปถามพระพุทธเจ้าว่า ฆ่าอะไรจึงจะไม่บาปและมีความสุขด้วยนะ พระองค์ตรัสว่า..
โกธัง ฆัตตะวา สุขัง เสติ
ฆ่าความโกรธได้มีความสุข
ฆ่าความโกรธได้ มีความสุข เพราะฉะนั้น เราอย่าไปโกรธคน แต่เราโกรธสิ่งที่ทำให้เราไม่เป็นคน สิ่งที่ทำให้คนไม่เป็นคนคืออะไร... ก็คือกิเลสประเภทต่างๆ ตัวใหญ่ก็ ๓ ตัว โลภะ โทสะ โมหะ นี่แหละ โลภ โกรธ หลง ไอ้สามตัวนี้แหละตัวร้าย เป็นตัวที่เราเห็นหน้ามันแล้ว ต้องเล่นงานมันเลยทีเดียว อย่าปล่อยให้มันมาโจมตีเรา อย่าให้มันมาเป็นนายเหนือเรา เดี๋ยวนี้คนเราไม่โกรธกิเลส แต่ว่ากลับไปโกรธคน มันไม่ถูก คนเรานี่ใช่ว่าจะชอบการมีกิเลสกับเขาเมื่อไหร่ ไม่รู้ไม่เข้าใจแล้วเผลอ มันก็มีขึ้น
คนทำชั่วนี่เป็นคนที่น่าสงสาร ควรหาทางว่าเราจะช่วยเขาอย่างไรให้ดีขึ้น ให้เขาเจริญขึ้น ให้มีปัญญา ให้รู้จักรักษาตัวรอดปลอดภัย เราควรจะทำอย่างไร นั่นแหละจึงจะเป็นการถูกต้อง
แต่เราไม่ค่อยคิดอย่างนั้น เขามีกิเลสแล้ว เรากลับมีกิเลสขึ้นมาด้วย เช่น เราเกลียดเขานี่มันเป็นกิเลส เราโกรธเขาเราก็มีกิเลส เราริษยาเขาเราก็มีกิเลส เราทำอะไรในทางไม่ดีก็เท่ากับว่าช่วยเพิ่มสิ่งชั่วร้ายขึ้นในสังคม สังคมจะดีขึ้นอย่างไร ถ้าเราไม่ช่วยกันทำลายสิ่งชั่วร้าย
หน้าที่ของเราทุกคน คือต้องทำลายสิ่งชั่วร้ายในตัวของเรา และในบุคคลอื่น.
ปาฐกถาธรรม วันอาทิตย์ที่ ๑ เมษายน ๒๕๒๗ พระพรหมมังคลาจารย์ (หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ) 