ผู้เขียน หัวข้อ: วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา  (อ่าน 52041 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ธรรมะรักโข

  • มีสติ...กำหนดรู้...อยู่ที่จิต
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 749
  • เพศ: ชาย
  • ผู้รักษาธรรม
    • ดูรายละเอียด
ประวัติวัดสะตือ

วัดสะตือสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ.2400 โดยหลวงพ่อโต หรือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มาของชื่อวัดนี้ เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณมีต้นสะตือใหญ่เป็นสัญลักษณ์ เลยนำมาตั้งเป็นชื่อวัด ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ประดิษฐานทางทิศใต้ของวัด องค์พระยาว 25 วา เชื่อหรือไม่ว่าหลวงพ่อโตท่านเกิดที่นี่ มารดาของท่านได้ให้กำเนิดท่าน ณ บนเรือที่จอดอยู่ในแม่น้ำป่าสักที่ทอดตัวทางด้านหลังของวัด



ด้านหน้าวัดสะตือครับ



องค์หลวงพ่อโต


ใครบนอะไรไว้แล้วสำเร็จจะแก้บนโดยการรำวงรอบองค์หลวงพ่อ รำร้อยกว่ารอบก็เคยมีนะครับ



องค์หลวงพ่ออีกซักรูปครับ


วิหารด้านข้างองค์หลวงพ่อ
พระสมเด็จกรุวัดสะตือ

ในวิหารจะมีช้างอธิษฐานเสี่ยงทาย วิธีคือ นั่งคุกเข่าชิดตัวช้างและเสมอด้านหน้าในด้านที่ตนเองถนัด ตั้งใจระลึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วก็อธิษฐานถามเรื่องอะไรก็ได้ แล้วจึงยกช้าง โดยที่ผู้ชายใช้นิ้วก้อยยกช้าง ผู้หญิงใช้นิ้วนางยก ยกครั้งที่ 1 เรื่องที่อธิษฐานถาม ประสบความสำเร็จ จะยกช้างขึ้น ยกครั้งที่ 2 อธิษฐานเรื่องเดิม ถ้าประสบความสำเร็จ ก็จะยกช้างไม่ขึ้นครับ


ช้างอธิษฐานเสี่ยงทาย


อภินิหาริย์หลวงพ่อโต วัดสะตือ จ.พระนครศรีอยุธยา
.........ปฐมตำนานการสร้างพระพุทธไสยาสน์ได้กล่าวเอาไว้ว่า พระพุทธไสยาสน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีดังที่จะกล่าวต่อไปนี้…
-พระพุทธไสยาสน์กลางแจ้ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
-พระพุทธไสยาสน์ วัดพระนอนจักสีห์ จังหวัดสิงห์บุรี
        เราจะเห็นว่าจังหวัดสิงห์บุรีกับจังหวัดอยุธยามีความใกล้ชิดกันมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนบธรรมเนียมและวัฒนะธรรมประจำท้องถิ่น รวมไปถึงงานบุญต่างๆ จังหวัดทั้งสองมีความละม้ายคล้ายกันมากทีเดียว
พระพุทธไสยาสน์กลางแจ้งที่มีขนาดยาวที่สุด ประดิษฐานอยู่ที่วัดสะตือ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา สร้างโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตตาราม กทม.ี

.........เจ้าประคุณสมเด็จฯ ถึงแก่มรณภาพในแผ่นดินรัชกาลที่ 5 เมื่อวันเสาร์ เดือน 8 แรม 2 ค่ำ ปีวอก จัดวาศกจุลศักราช 1234 ตรงกับวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415 เวลา 24.00 น. บนศาลาใหญ่วัดบางขุนพรหมใน (วัดอินทรวิหาร) สิริรวมอายุ 84 พรรษาที่ 64

.........ในปี พ.ศ. 2413 ก่อนมรณภาพ 3 ปี เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้มาทำการก่อสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนปางพุทธ-
ไสยาสน์ริมแม่น้ำป่าสัก ณ บ้านที่ถือกำเนิด ปัจจุบันคือ วัดสะตือ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา มีความยาว 25 วา กว้าง 4 วา สูง 8 วา มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ซ่อมแซม 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2465 โดยหลวงพ่ออุปัชฌาย์บัตร จันทโชติ อดีตเจ้าอาวาสวัดสะตือ ร่วมกับชาวบ้าน ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2499 จอมพล ป พิบูลสาคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต เห็นว่าองค์หลวงพ่อชำรุดทรุดโทรมมาก จึงได้ทำการบูรณะอยู่ 3 เดือน 25 วันจึงแล้วเสร็จ ครั้งที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2531 โดยพระครูพุทธไสยาภิบาล (หมึก) อดีตเจ้าอาวาส ได้ร่วมกับชาวบ้านทำการบูรณะอยู่ 3 เดือน 25 วัน จึงแล้วเสร็จ ครั้งที่ 4 เมื่อ พ.ศ.2540 โดยพระอธิการทองคำ คัมภีรปัญโญ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้ร่วมกับชาวบ้านทำการบูรณะและทาสีใหม่

.........ทางวัดสะตือได้จัดให้มีงานเทศกาล (งานประจำปี) เพื่อปิดทององค์หลวงพ่อโตเป็นประจำทุกปีๆ ละ 2 ครั้ง คือกลางเดือน 5 และกลางเดือน 12 พระพุทธไสยาสน์ หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่มาก และมีอายุการสร้างที่ยาวนาน มีประชาชนจากทั่วสารทิศ เดินทางมานมัสการกราบไหว้ มีกรขอพรและโชคลาภต่างๆ ซึ่งมักประสบผลตามที่ตั้งใจขอไว้ หลวงพ่อจะช่วยดลบันดาลอภิบาลรักษาให้ท่านที่เดินทางมานมัสการ มีความอยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลแก่ตัวท่านและครอบครัว

.........อภินิหาริย์หลวงพ่อโต.........เรื่องที่จะนำเสนอต่อไปนี้ ผู้เขียนได้รับข้อมูลจากคำบอกเล่าของคุณเสงี่ยม ใจซื่อ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.สระแก้ว คุณเสงี่ยมได้เล่าว่าเขามีอาการป่วยเรื้อรัง รักษาแพทย์แผนปัจจุบันหมดเงินหมดทองเป็นจำนวนมากแต่อาการก็ไม่ทุเลา
"แพทย์ลงความเห็นว่าเส้นประสาทของผมอาจจะพลิก รักษาให้หายขาดมีทางเดียวคือ ต้องทำการผ่าตัด ตอนนั้นผมกลัวมาก เพราะมีหมอดูซึ่งเป็นคนเขมรได้ทายเอาไว้ว่า ผมจะต้องเข้าโรงพยาบาล และต้องผ่าตัดแต่ไม่หายและจะต้องตาย ทีแรกผมไม่เชื่อ จนกระทั่งผมมีอาการปวดชาตามขา เดินไม่ไหว ผมจึงไปให้หมอตรวจ ก็ไม่คิดว่ามันจะลุกลามใหญ่โตถึงเพียงนี้"
พวกลูกๆ ของคุณเสงี่ยมพยายามชี้แจงว่า การวงการแพทย์แผนปัจจุบันมีความทันสมัยมาก อย่าไปเชื่อเรื่องหมอดูให้มากนัก แต่คำพูดของลูกๆ ก็ไม่อาจจะทำให้คุณเสงี่ยมเปลี่ยนใจ เขาขอเลือกการนอนรักษาตัวอยู่กับบ้านดีกว่าต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาล
อาการของคุณเสงี่ยมมี "ทรง" กับ "ทรุด" คุณเสงี่ยมเริ่มหันมาศึกษาในคำสอนของพระพุทธองค์ เริ่มท่องคาถาชินบัญชร มีการปฏิบัติธรรม รักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด "ไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด เพราะถือว่าเป็นการเบียดเบียนสัตว์โลกด้วยกัน จากนั้นไม่นานอาการเจ็บป่วยก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคืนหนึ่งผมฝันว่าได้ไหว้พระนอน ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่ไม่รู้ว่าพระนอนองค์นั้นอยู่ที่ไหน พอผมกราบท่านเสร็จผมก็ได้ยินเสียงท่านพูดว่า โยมกำลังจะพ้นทุกข์แล้วนะ บรรดาเจ้ากรรมนายเวรเขาเห็นโยมทำดี เขาเลยอโหสิให้ เพียงแต่โยมทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้พวกบ้าง ทุกอย่างมันก็จะดีขึ้น จากนั้นผมก็ตกใจตื่น"

..........คุณเสงี่ยมไม่รู้ว่าพระนอนองค์นั้นอยู่ที่ไหน สอบถามเพื่อนฝูงก็ไม่มีใครรู้จัก จนกระทั่งวันหนึ่งญาติของคุณเสงี่ยม ซึ่งเป็นข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มาเยี่ยมคุณเสงี่ยมที่บ้าน
"ผมถามเขาว่าตอนนี้ทำงานที่ไหน เขาบอกว่าอยู่กรุงเทพฯ แต่ไปได้เมียเป็นคนอยุธยา ตอนนี้เลยต้องเดินสายขึ้นล่องกรุงเทพ ฯ - อยุธยา ทุกอาทิตย์ ผมถามเขาว่าแถวบ้านมีพระนอนองค์โตๆ บ้างหรือเปล่า เป็นพระนอนกลางแจ้ง เขาบอกว่ามีอยู่องค์หนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อโต อยู่ที่วัดสะตือ ศักดิ์สิทธิ์มาก พอได้ยินเช่นนั้นมันรู้สึกเย็นวาบทั้งตัว บอกกับตัวเองว่าใช่แน่แล้ว พระองค์นี้แหละที่ผมเห็นในความฝัน ผมก็เลยขอเขาติดรถมาที่จังหวัดอยุธยาด้วยทันที…"

.........คุณเสงี่ยมเล่าให้ฟังว่ายิ่งเข้าใกล้วัดสะตือเท่าใดก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น จนกระทั่งรถได้ขับเข้ามาภายในบริเวณวัด ภาพของพระนอนขนาดใหญ่ที่ปรากฏตรงเบื้องหน้า ทำให้คุณเสงี่ยมถึงกับขนลุกเกลียวเลยทีเดียว
"เป็นพระองค์เดียวกับที่ผมเห็นในความฝัน เป็นเหตุการณ์ที่ต้องบอกว่าเหลือเชื่อ ไม่น่าเป็นไปได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว"
คุณเสงี่ยมรีบลงจากรถเพื่อไปมนัสการหลวงพ่อโต อาการปวดที่ขามันค่อยๆ ทุเลาลง ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก คุณเสงี่ยมพักอยู่ที่บ้านญาติ 3 วัน ทุกวันจะต้องนำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชาหลวงพ่อโตไม่ขาด
"อาการปวดเรื้อรังมันดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนนี้ผมหายเป็นปกติแล้ว ไปตรวจครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลเมื่อเดือนก่อน หมอคนที่เป็นเจ้าของไข้ยังงง บอกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว"

.........ใครจะเชื่อบ้างว่า อำนาจของพระพุทธคุณจะสามารถรักษาโรคร้ายให้หายได้… 
 
   
 
 
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก...http://railway.exteen.com/20050505/entry
                                       http://www.thaluang.go.th/article-315.html
 
   
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 


 
   
 



ออฟไลน์ gottkung

  • จะหมึกหรือน้ำมันไม่สำคัญ จงตั้งมั่นให้อยู่ในความดี
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 4088
  • เพศ: ชาย
  • "จะลูกใครนั้นไม่สำคัญ เป็นศิษย์ฉันเท่ากันทุกคนไป "
    • ดูรายละเอียด
    • www.gottkung.multiply.com
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
ครับ ถ้ามีโอกาสคงแวะไปกราบ
หลวงพ่อโตท่านบ้างครับ :001:
เราเป็นศิษย์คิดมีครูดูก่อนเถิด อย่าละเมิดคำครูที่พร่ำสอน
ปุถุชนคนธรรมดาพึงสังวรณ์ ครูท่านสอนมอบสิ่งดีแก่เราๆ

ออฟไลน์ ศิษย์΄βP΄Θยกบ้าน

  • จตุตถะ
  • ****
  • กระทู้: 132
  • เพศ: หญิง
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆค่ะ :016: :015:
[shake]เขามีส่วน>เลว<บ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วน>ดี<เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้างยังน่าดู
ส่วนที่>>ชั่ว<< อย่าไปรู้ของเขาเลย...
^^จริงๆนะ
[/shake]

ร่วมรณรงค์ในการ พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยให้ถูกต้องค่ะ

ออฟไลน์ mew2

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 357
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
มากันให้ได้นะครับ ผมเป็นคนแถววัดสะตือครับ ไปไหว้หลวงพ่อบ่อย ถ้ามาวันอาทิตย์คนจะเยอะมากนะครับ เพราะมีตลาดนัด ตอนนี้ที่วัดกำลังหาเงินซื้อที่ดินทำเป็นที่จอดรถอยู่ครับ ตารางวาละ 100 บาทครับ ได้่หลวงพ่อโต 1 องค์ เป็นรุ่นบูรณะหลวงพ่อโตครับ (ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเหลือหรือเปล่านะครับ) เป็นการตอบแทนน้ำใจครับ ว่างๆก็มาทำบุญกันนะครับ  เร็วๆนี้ที่วัดจะบูรณะองค์หลวงพ่อครับ (องค์หลวงพ่อร้าวครับ) เห็นว่าบวงสรวงไปแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะบูรณะวันไหนครับ ที่วัดจะมีท่าน้ำ มองไปเห็นเขื่อนพระรามหก(เขื่อนแห่งแรกในประเทศไทย)สวยงามมากครับ มีที่ขายอาหารปลาด้วยครับ ใครผ่านมา อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็อย่าลืมแวะมาไหว้หลวงพ่อโตที่วัดสะตือนะครับ
ขอตายไปพร้อมกับคำว่าสักยันต์

ออฟไลน์ umpawan

  • ก้นบาตร
  • *****
  • กระทู้: 3112
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์วัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
เคยผ่านไปแถวนู้นอยู่ครับ วัดสะตือ ไกลจากตัวเมืองอยุธยามากเลยทีเดียว
แต่ไปท่าเรือ ไปวัดวัดแดงใต้ หลวงพ่อเอื้อนเท่านั้นเอง

ออฟไลน์ yout

  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1742
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
ขอบคุณครับ.......... :090: :090: :114: :090: :090:............