วันหนึ่งมีนักบวช 3 รูป ท่าทางไม่ใช่คนไทย แต่งกายคล้ายซามูไร บอกลักษณะว่าน่าจะเป็นพระเซ็น พระผู้ต้อนรับได้ปฏิสันถารกับอาคันตุกะทั้งสามจนทราบว่าเขาต้องการถามธรรมะหลวงพ่อจึงได้เชิญเขาเข้าไปพบหลวงพ่อพร้อมกับนิมนต์พระฝรั่งรูปหนึ่งมาเป็นล่าม เมื่อเริ่มต้นปฏิสันถารก็ได้ความว่า
เขาได้ท่องเที่ยวถามธรรมะจากพระผู้ใหญ่ทั้งที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในขณะนั้นหลายรูปหลายองค์ด้วยกันมาแล้วเมื่อนักบวชทั้ง 3 ได้กราบคารวะและขออนุญาตถามปัญหาแก่หลวงพ่อ ท่านก็อนุญาตให้ถามได้ไม่ต้องเกรงใจ ให้ถือว่าเราต่างเป็นชาวพุทธด้วยกัน มีพระพุทธเจ้าเป็นพ่อ มีพระธรรมเป็นแม่ อย่าถือว่ามหายานหรือ เถรวาท ให้ถือว่าเป็นลูกพ่อแม่เดียวกันเมื่อพระอาคันตุกะทราบคำอนุญาตแล้วก็เริ่มตั้งคำถามว่า
ปฏิบัติไปทำไม ปฏิบัติเพื่ออะไร ทำไมจึงต้องปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วจะได้อะไร
หลวงพ่อตอบทันทีว่า กินข้าวไปทำไม กินข้าวเพื่ออะไร ทำไมจึงต้องกินข้าว กินข้าวแล้วจะได้อะไร
ปรากฏว่าพระอาคันตุกะเกิดความซึ้งใจในทันที
และบอกว่าได้พยายามหาคำตอบสั้นๆเช่นนี้มานานแล้ว ส่วนมากคำตอบที่ได้มักยาว หลวงพ่อฟังแล้วท่านก็เฉยๆไม่ตอบเพียงกล่าวต่อไปว่ามีปัญหาอีกไหม
เขาจึงถามต่อไปว่า คนไม่รู้ คือ ใคร
หลวงพ่อ คนไม่รู้ คือ คนหลง
พระอาคันตุกะ คนหลง คือ ใคร
หลวงพ่อ คนหลง คือ คนไม่รู้
พระอาคันตุกะถึงกับน้ำตาคลอ เพราะได้คำตอบที่กินใจมากพระอาคันตุกะหมดความสงสัย เมื่อเห็นพระอาคันตุกะเลิกถามท่านก็ปฏิสันถารอีกเล็กน้อยว่า
ท่านเองท่านชอบการปฏิบัติแบบเซ็น แม้พระไทยบางองค์ก็ไปปฏิบัติที่อินเดีย ลังกา เกาหลี ไม่ว่าปฏิบัติที่ไหน ก็ถือว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระธรรมเป็นนามธรรมเดียวกัน พระทุกชาติมีกิเลสตัวเดียวกัน ธัมมะจึงเป็น เอโก ธัมโม ขออย่าให้เราติดใจสงสัยเกี่ยวกับรูปแบบ
คัมภีร์ อาจารย์ เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นเปลือกนอก ที่ไหนๆก็มี คนแก่ คนเจ็บ คนตาย
จากหนังสือ สุดสายธรรม หน้า 24