เกริ่นนิดหน่อยนะครับ...คราวที่แล้วผมเขียนถึงเรื่องสอบถามการปฎิบัติวิปัสสะนากรรมฐาน
ครั้นผมปฎิบัติไปไม่ได้จึงเกิดความเบื่อหน่ายตัวเอง....จึงตัดสินใจขอแม่บ้าน(ภรรยา)บวช
ซึ่งผมอายุปาเข้าไป 55 ปี....เมื่อปีที่แล้วนี่เอง.
ตอนที่ผมตัดสินใจบวช เพื่อนๆเชื่อไหม ว่า มารมีจริงๆ....แบบว่าจะทําทุกวิถีทางเพื่อให้ผม
บวชไม่ได้.....เพราะทุกเย็นผมจะซ้อมขานนาค และท่องบทสวด
ตอนเช้าผมจะขายอาหารตามสั่ง....(มาช่วยเป็นเชฟให้ลูกชายยามว่าง)
ก่อนบวช 3 วัน...ตอนที่เก็บร้าน เตาขนาดใหญ่ซึ่งทั้งตัวเป็นสแตนเลสหล่นจากโต๊ะ โครมมาที่ปลายนิ้วก้อยเท้า
ผมไม่กล้ามอง...ในใจคิดว่า นิ้วคงต้องขาดแน่ๆ ได้แค่เหลือบมอง ...แต่ไม่เห็นเลือด
ก็คิดว่าถ้าไม่ขาดก็คงต้องหัก.....ก็ลองขยับปลายนิ้วก้อยดู...บอกตรงๆว่าปวดมาก
ตอนนี้ใจพุ่งไปที่การบวช.....เออแล้วเราจะบวชได้ไหมเนี่ย...เพราะต้องนั่งทําพิธีในการบวช
ก็ลองนั่งดู....พี่ๆ เพื่อนๆ เอ๋ยยยย....ปวดน่าดูชม.
และเท่าที่ดู....นิ้วไม่หัก แต่เขียวช้ำ บวมโต....จึงตัดสินใจว่า เป็นไงเป็นกัน..
ของแค่นี้ไม่สามารถทําให้ผมเลิกล้มการบวชไปได้....จึงกัดฟันทน นั่งซ้อมขานนาค
และเป็นที่น่าแปลก....ความเจ็บ ปวด อีกทั้งอาการบวมโต...หายไป.
ดรั้นบวชอยู่ในผ้าเหลือง....ผมบวชอยู่วัดเจ้าอาม...ผมเดินเภาวนาออกบิณบาตร และเป็นครั้งแรก
ของผู้ที่มาใส่บาตร ว่าพระองค์นี้ทําไมเดินช้ามากๆ.....องคฺอื่นเดินตัวปลิว.
ในใจตอนนั้นคิดว่าผมออกไปโปรดสัตว์ด้วย....เพราะพวกสัตว์ตัวเล็กๆน้อยๆ...พวกเค้าไม่สามารถใส่บาตรให้เราได้.
อีกอย่างตอนบวช ผมกินเมื้อเดียว...พอ 8 โมงเช้าท๊าวัตร-8.45 หลังจากนั้นจะนั่งกรรมฐานในวิหารเล็กจนถึง 4 โมงเย็น..
ต่อด้วยทําวัตรเย็น 5 โมงเย็น.....ต่อจากนั้นจะเดินจงกลมถึง 2 ทุ่ม...
หลัง 2 ทุ่ม ผมจะเข้าไปนั่งกรรมฐานที่โกดังเก็บศพ ทําแบบนี้ตลอด.....จนท่านเจ้าอาวาส ให้กุญแจ กุฎิเก่าที่ท่านเคยอยู่
และเป็นห้องแอร์ ท่านบอกว่าให้ไปปฎิบัติในห้องนั้น....เพราะเป็นห้องที่ผู้มีพระคุณแก่วัด สร้างถวาย
พอเปิดประตูเข้าไป....ผมชงักนิดนึง....เพราะมีโลงศพตั้งอยู่กลางห้อง.มารู้ว่าผู่มีพระคุณนั้นเสีย และเก็บไว้ 100 วัน
เพื่อรอเผา....ในใจตอนนั้นคิดว่า ไหนๆก็ไหนๆ....เราอยู่ในผ้าเหลือง ถ้าโดนหลอก ก็ขอให้ตายในผ้าเหลือง...
พี่ๆเพื่อนๆครับ....การปฎิบัติไปได้ดีมากๆ....สงบ ปลง ความตายเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน.
หลับตาเห็นการแตกดับ....ของคนที่นอนอยู่ในโลง.
เน่าเปื่อย หนอนเต็มไปหมด แต่แทนที่จะมีกลิ่นเน่าเหม็น....กลับกลายเป็นกลิ่นน้ำอบไทยอ่อนๆ....
พอผมออกจากสมาธิ...เชื่อไหมครับทันทีที่ลืมตา....แสงดวงใหญ่...ขนาดเท่าลูกมะพร้าว
พุ่งออกมาจากโลงศพ มาที่หน้าของผม...แทนที่ผมจะตกใจ กลับกลายเป็นว่า เหมือนกับว่า มีความสุข
และเกิดปิติมากๆ....
อีกหลายวันต่อมา...ท่านเจ้าอาวาสก็ให้ผมเอาพระบวชใหม่อีก 2 รูป ไปฝึกด้วย.
ซึ่งก็เป็นปรกติธรรมดาที่ผมเข้าไปนั่งทุกวัน...แต่กับพระบวชใหม่ 2 รูป...มานั่งได้แค่วันเดียว
ก็บอกไม่เอาแล้ว...ผมจึงถามเหตุผลว่าทําไม่ไม่ทําต่อ...ลืมไปครับ....หลังจากนั่งแล้วออกจากการปฎิบัติ
พระทั้ง 2 องค์ ผลัดกันดมจีวรกันใหญ่....กลิ่นสาบเน่าติดอยู่ที่จีวรพระทั้งสององค์...แต่ของผมไม่มีเลย.
และอีกเหตุผลนึง พระทั้ง 2 องค์ บอกว่า นั่งไม่ได้...มีแค่คนดึงจีวร บางครั้งก็มีหน้าคนตาย(ที่นอนสงบอยู่ในโลง)
มาปรากฎเต็มหน้าเลย....ทําให้ทั้งสององค์นั่งไม่ได้. ผมก็เลยถามต่อว่า ทําไมจึงมาบวช...
คนนึงบอกบวชแก้บน.....อีกคนบอกว่า พ่อ แม่บังคับให้บวช เพราะจะแต่งงาน...
นี่คือเรื่องจริงตอนที่ผมบวชอยู่วัดเจ้าอาม....แม้จะบวชไม่ถึงพรรษา...แต่ผมบอกตรงๆว่าตักตวงได้เต็มเปี่ยมครับ.
ที่สึกเพราะหน้าที่การงาน อีกทั้งครอบครัวก็ยังมีให้สางต่อ...แต่ผมไม่วายถามท่านเจ้าอาวาสว่า
หลวงพ่อครับ....ถ้าผมอายุ 70 ปี ผมกลับมาบวชต่อได้ไหมครับ...
ท่านหัวเราะ....แล้วบอกว่า บวชให้เป็นภาระกับวัดเปล่าๆ....