ทำไมยังเบียดเบียนตนเองอยู่
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
คำสอนคำเตือนของหลวงปู่ที่ว่า "ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต" นี้
มีความหมายที่เอาไปปรับใช้ได้ตั้งมากมาย
ไม่เพียงแต่ในแง่มุ่งความหลุดพ้นอย่างสิ้นเชิงเท่านั้น
ในชีวิตประจำวัน บ่อยครั้งทีเดียวที่เราคิดว่าเราระวังแต่ในเรื่องไม่เบียดผู้อื่น
แต่เรากลับเผลอเบียดเบียนตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเบียดเบียนด้วยความคิดความกังวลต่าง ๆ
ไม่เว้นแม้ในกิจกรรมบุญ
เช่น นั่งลุ้นนั่งวิตกว่า คนที่เราพาเขาเข้าวัดฟังธรรมจะรับธรรมะได้มากน้อยเพียงใด
หรือคิดวิตกไปในอนาคตว่าจะทำนั่นทำนี่ได้ทันเวลาไหม
คิดเปรียบเทียบกับใคร ๆ จนจิตเศร้าหมอง คิดโกรธไม่พอใจการกระทำของคนอื่น
ปล่อยให้โทสะเผาใจเจ้าของอยู่เป็นเวลานาน ฯลฯ
สารพัดความคิดที่เราทำร้ายตัวเราเอง
เรียกว่าเบียดเบียนตัวเราเองโดยแท้
ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่าคิดน่ะคิดได้ แต่ต้องคิดด้วยความรู้คือ
ด้วยปัญญา คิดด้วยใจที่เป็นกลาง ๆ มิใช่คิดด้วยความหลง
คิดไปวิตกไป แบกความคิด แบกอารมณ์ไว้จนหนักเสียยิ่งกว่าแบกอิฐแบกปูน
ทีนี้ เมื่อนึกถึงคำหลวงปู่ที่ว่า"ให้หมั่นดูจิต รักษาจิต"
เราก็จะได้หมั่นเตือนตนเองว่า เราจะไม่เบียดเบียนตนเองให้ทุกข์เพราะความคิดความกังวล
เราจะปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ว่า ละชั่ว ทำดี
แล้วก็ที่สำคัญที่สุดคือ ทำใจให้ผ่องแผ้ว เผลอไปก็เอาใหม่ ๆ ๆ
หลวงปู่ท่านให้กำลังใจเสมอว่า "ล้มแล้วก็ให้ลุก ล้มไปก็ตั้งขึ้นใหม่"
นิพพานอันเป็นที่ดับ ทุกข์สิ้นเชิงจะเป็นอย่างไร
เราไม่รู้ แต่ขอเราสัมผัสนิพพานน้อย ๆ คือความที่ไม่ต้องแบกอารมณ์ใด ๆ
ไม่มีเรื่องคาใจ ลิ้มรสความสงบเย็นในหัวใจนี้เรื่อยไป
ก็นับว่าคุ้มค่าที่ได้ทันและนำคำสอนของครูบาอาจารย์มาปฏิบัติ
ขอบคุณที่มา http://board.palungjit.com