ผู้เขียน หัวข้อ: เก็บความทรงจำนำมาเล่า...๘ คืน ๘ วันกับ ๕๔๒๘ กิโลเมตร  (อ่าน 4283 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
ตถตาอาศรม ริมฝั่งโขง
๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
              ห่างหายไปหลายวัน เพราะมีกิจธุระที่รับนิมนต์ไว้หลายที่หลายจังหวัด ซึ่งรับนิมนต์ไว้
ตั้งแต่ในช่วงเข้าพรรษา เมื่อมีเวลาจึงต้องออกไปเคลียร์กิจนิมนต์ที่ได้รับไว้ให้เรียบร้อยทุกรายการ
ออกเดินทางจากมุกดาหารตอนเย็นของวันที่ ๒๘ ตุลาคม ไม่ได้เอารถวัดลงไป เลยใช้บริการรถทัวร์
ของบริษัทรุ่งเรืองทัวร์ สายมุกดาหาร-ระยอง ไปลงที่ศรีราชา จ.ชลบุรี ออกจากวัดเวลา ๑๘.๐๐ น.
ไปถึงศรีราชาเวลา ๐๖.๓๐ น. โยมมารอรับที่ขนส่ง เพื่อเดินทางต่อไปเกาะสมุย ออกจาก อ.ศรีราชา
เวลา ๐๗.๔๕ น. เข้ากรุงเทพฯไปรับโยมที่จะไปเกาะสมุยด้วยกัน ไปถึงท่าเรือเฟอร์รี่ ที่อ.ดอนสัก
เวลาประมาณ ๑๘.๒๐ น. รอลงเรือเที่ยวสุดท้ายคือเรือเที่ยวหนึ่งทุ่ม คลื่นลมแรงมากไปถึงเกาะสมุย
เวลาประมาณ ๒๑.๓๐ น.เพราะเรือทำความเร็วไม่ได้ มีญาติโยมมารอรับที่ท่าเรือเกาะสมุย เพื่อนำไป
ที่พัก แวะให้ญาติโยมทานอาหารที่บ้านแม่น้ำ เข้าที่พักเวลาประมาณ ๒๒.๓๐ น. นั่งคุยธุระกันต่อจนถึง
เวลาประมาณ ตีสองกว่าๆ จึงขอตัวจำวัตรเพราะเดินทางนั่งรถมาทั้งวันทั้งคืน
            เช้าวันที่ ๓๐ ตุลาคม  ตื่นเช้าตามปกติ เจ้าภาพเตรียมอาหารเช้าไว้ต้อนรับอย่างเต็มที่ ฉันเช้า
แล้วโทรศัพท์ติดต่อทีมงานในเกาะสมุย เพื่อมาพบปะพูดคุยธุระกัน ออกจากที่พักเวลาประมาณ ๐๘.๓๐ น.
ตะเวณไปรอบเกาะเพื่อดูสถานที่และโครงการต่างๆ กว่าจะครบทุกโครงการก็ประมาณบ่ายสองกว่าๆ จึงได้เิดน
ทางกลับเรือเที่ยว ๑๕.๐๐ น. คลื่นลมแรงมาก เรือเข้าเทียบท่าไม่ได้ต้องรอคลื่นลมสงบ เรือเช้าเทียบท่าได้
เวลาประมาณ ๑๗.๒๐ น. เดินทางต่อเข้าตัวจังหวัดสุราษฏร์ธานี แวะเยี่ยมเพื่อนที่เป็น นายก อ.บ.ต.ที่ อ.กาญจนดิษฐ์
นั่งคุยฉันกาแฟกันจนถึงเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น.จึงขอตัวเดินทางต่อไปเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ของเพื่อนสมัยเรียนซึ่งนับถือ
เหมือนโยมพ่อโยมแม่ของเราเอง เพราะสมัยเป็นเด็กนั้นเคยไปกินไปนอนบ้านท่าน ได้รับความรักความเมตตาจากท่าน
เหมือนลูกคนหนึ่งของท่าน นั่งสนทนาพูดคุยกับโยมพ่อโยมแม่จนดึกและมีเพื่อนๆสมัยเรียนรู้ข่าวว่าเราเข้ามาในพื้นที่
ต่างก็ส่งข่าวบอกต่อๆกัน เพื่อนๆเลยมาสมทบกันเป็นคณะใหญ่ เลยต้องย้ายออกจากนั่งในบ้านมาตั้งโต๊ะคุยกันที่หน้าบ้าน
เพราะเพื่อนๆทยอยมากันเยอะขึ้นเรื่อยๆ นั่งคุยกันระลึกความหลังเรื่องสัพเพเหระ สอดแทรกธรรมะบ้าง เฮอากันไป
จนถึงประมาณเที่ยงคืนจึงได้แยกย้ายกัน เพราะมีอีกคณะหนึ่งมารออยู่ที่บ้านเพื่อนที่เป็นหมอ ซึ่งได้สร้างเรือนรับรองไว้
สำหรับพระและจะไปพักที่นั่นทุกครั้งที่เดินทางเข้าสุราษฏร์ธานี นั่งคุยกันต่อจนถึงตีสามกว่าๆ จึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน
        เช้าวันที่ ๓๑ ตุลาคม นัดรวมตัวกันที่ร้านข้าวผัดปู ซึ่งเป็นร้านของเพื่อนกัน ไปฉันเช้าและนัดพบพูดคุยกันกับเพื่อนๆ
สมัยเรียนมัธยม เช้านี้ทั้งพระทั้งโยมรวมกันเกือบยี่สิบคน ฉันข้าวเสร็จจึงได้แยกย้ายกัน เดินทางต่อไปจังหวัดนครศรีธรรมราช
ไปร่วมงานกฐินที่เจ้าภาพกฐินเขานิมนต์ให้ไปเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่วัดปากจัง บ้านกระทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช
ไปถึงวัดปากจังเวลา ๑๐.๓๐ น.มีญาติโยมมารอรับอยู่แล้ว นั่งสนทนาต้อนรับโยมอยู่จนถึงเวลา ๑๓.๐๐ น.จึงได้เข้าโบสถ์
เพื่อไปร่วมอนุโมทนากฐินกับเจ้าภาพ ได้พบกับพระสหธรรมิกรูปหนึ่ง ซึ่งเคยรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
และไม่ได้พบกันอีกเลย ได้มาพบกันอีกครั้งก็เปลี่ยนสถานะบวชเป็นพระเหมือนกัน ซึ่งท่านก็ได้บวชมา ๒๐ พรรษาแล้ว
ได้สนทนาธรรมกับพระสหธรรมมิกเพลินไปจนเกือบลืมเวลา โยมต้องมาเตือนว่า มีกิจนิมนต์ที่อื่นอีก จึงได้แยกย้ายลากัน
ออกจากวัดปากจังเวลา ๑๖.๓๐ น. เดินทางต่อเข้าจังหวัดสุราษฏร์ธานี พายุฝนเริ่มเข้า ฝนตกหนักมาตลอดทาง แวะฉันกาแฟ
ที่ปั๊มน้ำมันในตัวเมืองสุราษฏร์เพราะเพื่อนๆที่ยังไม่ได้เจอกันมารออยู่ที่ร้านกาแฟแล้ว นั่งคุยกันจนถึงทุ่มหนึ่งจึงได้แยกย้ายกัน
เพราะเจ้าภาพที่นิมนต์ไว้กังวลใจโทรศัพท์มาตามหลายครั้งแล้ว ถึงที่พักเวลาประมาณสองทุ่ม มีญาติโยมมานั่งรออยู่หลายท่าน
ทำพิธีต่างๆเพื่อสงเคราะห์ญาติโยม จนถึงเวลาประมาณตีสองกว่าๆญาติโยมจึงได้ลากันกลับ จงได้จำวัตรพักผ่อน
      เช้าวันที่ ๑ พฤศจิกายน ตื่นเช้าฉันข้าวแล้ว ทำพิธีสงเคราะห์ให้แก่ญาติโยมต่อจนเสร็จหมดทุกคน โยมนิมนต์ให้ไปตรวจดู
โครงการต่างๆรอบเมืองสุราษฏร์ประมาณ ๗ โครงการ แวะฉันเพลกันที่ร้านอาหารบนภูเขา นั่งชมวิวฉันข้าว ฉันกาแฟดูสภาพบ้านเมือง
พูดคุยสรุปงานกันจนถึงเวลา ๑๓.๓๐ น.จึงแยกย้ายกัน เดินทางต่อไปจังหวัดกระบี่ตามที่เจ้าภาพได้นิมนต์ไว้ ฝนตกตลอดเส้นทาง
ไปถึงกระบี่ประมาณ ๑๕.๓๐ น. แวะไปที่อ่าวนางและสุสานหอย ให้ญาติโยมที่ตามไปด้วยได้เที่ยวชมสถานที่ ส่วนตัวเราก็จะได้ทำธุระ
กิจนิมนต์สงเคราะห์ญาติโยม เสร็จพิธีที่อ่่าวนาง ส่งโยมเข้าที่พักในตัวเมืองกระบี่เสร็จแล้ว จึงได้เข้าไปพักที่วัดถ้ำเสือฯเพื่อนิมนต์พระ
ไปร่วมพิธี ไปพักกับเพื่อนสหธรรมิกในวัดถ้ำเสือ ซึ่งท่านนั้นเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมและมหาวิทยาลัย
และเป็นเจ้าภาพบวชให้ท่านเองด้วย นั่งคุยสนทนาธรรมกันจนดึกเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้เพราะว่าร่างกายอ่อนเพลียจากการเดินทาง
     เช้าวันที่ ๒ พฤศจิกายน รู้สึกตัวตื่นตอนตีสองกว่าๆ ฝนตกหนักลมแรง กิ่งไม้หักตกใส่หลังคากุฏิ เพราะพายุฝนเข้าจังหวัดกระบี่
ตื่นขึ้นมาก็สนทนาธรรมกันต่อจนถึงเวลาประมาณ ๘.๐๐ น. เจ้าภาพมารับไปกิจนิมนต์ทำบุญรอบปีของแมนชั่น เพราะว่าแมนชั่นแห่งนี้นั้น
เราได้มีส่วนมาตั้งแต่เริ่มแรก คือหาสถานที่ก่อสร้าง แบบแปลนโครงสร้าง วันวางศิลาฤกษ์ วันเปิดดำเนินกิจการ เจ้าของแมนชั่นจึงเจาะจง
นิมนต์ให้มาในงานทำบุญรอบปีทุกครั้ง มีญาติโยมลูกศิษย์ในจังหวัดกระบี่มารออยู่ที่งานเป็นจำนวนมาก เพราะว่าเคยอยู่จำพรรษาที่วัด
ถ้ำเสือฯช่วยเหลืองานหลวงพ่อจำเนียรมาหลายปี จึงมีญาติโยมรู้จักเยอะ เจริญพุทธมนต์ ฉันข้าวเสร็จ ส่งพระที่นิมนต์มากลับวัดถ้ำเสือฯ
ทำพิธีสงเคราะห์ญาติโยมต่อ จนถึงเวลาประมาณ ๑๓.๓๐ น.จึงลาญาติโยมเดินทางกลับจังหวัดสุราษฏร์ เพื่อแวะรับญาติโยมที่มาด้วยกัน
แต่รถของโยมเกิดเสียเพราะโดนน้ำท่วม ต้องให้บริษัทประกันมายกไปเข้าศูนย์ที่กรุงเทพฯ ฝนตกหนักมาตลอดทางตั้งแต่ จ.กระบี่
จนถึงจังหวัดสุราษฏร์ กลับถึงสุราษฏร์เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. มีญาติโยมมาขอให้สงเคราะห์อีกหลายราย จึงต้องอยู่ทำพิธีให้โยม
จนเสร็จหมดทุกคน ออกจากสุราษฏร์ธานีเวลา ๑๗.๔๕ น. ฝนยังตกหนักอยู่ แวะซื้อของฝากที่ อ.ไชยา แล้วจึงเดินทางกันต่อ
พอพ้น อ.เมืองชุมพร เลยศาลพ่อตาหินช้างมาแล้ว ไม่มีฝนเลย เดินทางกลับถึง อ.ศรีราชา เวลาประมาณ ๐๑.๓๐ น.ถนนโล่งรถน้อย
ทำความเร็วได้ดีจึงถึงที่พักเร็ว ถึงที่พักกันแล้วก็นั่งคุยกันต่อ สรุปงานการเดินทาง ภาพรวมทั้งหมด คุยกันจนถึงตีสามกว่าๆจงได้พักผ่อน
   เช้าวันที่ ๓ พฤศจิกายน ตื่นเช้าตามปกติเพราะหลับไม่เกินสองชั่วโมง ตื่นเช้ามาทำกิจวัตรของสงฆ์ตามปกติเพราะว่ามีความเป็นส่วนตัว
โยมเขามีบ้านรับรองพระแยกออกจากบ้านที่โยมอยู่อาศัย จึงสามารถที่จะทำกิจได้เพราะมีความเป็นส่วนตัว ฉันเช้าแล้ว โยมมารับไปดู
โครงการที่ จ.ระยอง เสร็จจากระยองก็มาดูโครงการต่อที่ จ.ชลบุรี กลับถึงที่พักเวลาประมาณ ๑๕.๓๐น.ขอตัวญาติโยมจำวัตรก่อนเพราะ
ตอนกลางคืนจะมีญาิติโยมลูกศิษย์อีกหลายคณะใน อ.ศรีราชาที่จะมาหาให้ช่วยสงเคราะห์ หลับไปประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ ตื่นขึ้นมาสรงน้ำ
ฉันกาแฟให้ร่างกายสดชื่น เวลา ๑๘.๐๐ น.ญาติโยมเริ่มทะยอยกันมาขอความสงเคราะห์ สงเคราะห์ญาติโยมเสร็จหมดทุกคนประมาณ
๒๒.๐๐ น. นั่งสนทนากันต่อ จนถึงเวลาประมาณตีสามกว่าๆ ญาติโยมจึงได้ลากลับ จึงได้จำวัตรพักผ่อน
   เช้าวันที่ ๔ พฤศจิกายน ตื่นเช้าทำกิจวัตรของสงฆ์เสร็จ ลงไปดูข่าวน้ำท่วมภาคใต้ ปรากฏว่าทุกที่ ที่ได้ไปมานั้นน้ำท่วมเกือบทั้งหมด
ฉันเช้าแล้ว นั่งพูดคุยสรุปงานกันอีกครั้ง จนถึงเวลา ๐๙.๒๐ น. จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อแวะเยี่ยมทีมงานลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่นสาย
รามอินทรา ( ชุดที่ทำผ้ายันต์ให้วัดบางพระ ตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อเปิ่นยังอยู่ จนถึงบัดนี้ ) ถึงรามอินทราเวลา ๑๑.๐๐ น. น้องๆมารอ
อยู่แล้ว สนทนากันตามประสาพี่น้อง สลับกันใครมีงานก็ไปทำกันใครว่างก็เข้ามา นั่งคุยกันจนถึงทุ่มหนึ่ง พวกน้องๆจึงได้ไปส่งที่หมอชิต
เพื่อนั่งรถทัวร์กลับมุกดาหาร ซึ่งน้องเขาจองตั๋วรถเที่ยวสามทุ่มครึ่งไว้ให้ ตอนเย็นรถติดมากกว่าจะถึงหมอชิตเกือบสามทุ่ม นั่งฉันกาแฟรอ
เวลารอออก รถเสียเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง กว่าจะออกได้ก็สี่ทุ่มพอดี รถมาถึงมุกดาหารเวลาประมาณ ๐๗.๓๐ น.
  เช้าวันที่ ๕ พฤศจิกายน กลับถึงวัดเวลาประมาณ ๐๘.๐๐น.ใช้เวลาในการเดินทางไปกิจนิมนต์รอบนี้๘วัน๘ คืน เดินทางไปเดินทางมา
นั่งรถดูสถานที่โครงการต่างๆรวมแล้วระยะทาง ๕๔๒๘ กิโลเมตร กว่าจะเสร็จสิ้นการเดินทางในครั้งนี้ มีทุกรสชาติของชีวิต เมื่อเราได้
คิดและพิจารณา ได้ทั้งประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม สงเคราะห์อนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน เดินไปคู่กันเพราะเราอยู่บนโลกใบเดียวกัน
โลกและธรรมจึงต้องเดินไปด้วยกัน ปรับโลกเข้าหาธรรม ปรับธรรมเข้าหาโลก หาความเหมาะสมพอดีที่จะอยู่ด้วยกัน ให้เกิดความเจริญทั้ง
ทางโลกและทางธรรม ตามภูมิปัญญาและบารมีที่สะสมมาของแต่ละคนแ ประสานให้เกิดความลงตัว ความพอดี ชีวิตก็ย่อมมีความสุข
ทั้งในทางโลกและทางธรรม ก้าวไปพร้อมกันไม่ขัดแย้งกัน เพราะทุกคนนั้นมีธรรมะสัปปายะ คือการปฏิบัติธรรมที่เหมาะสมกับตัวเอง....
                          ขอบคุณการเดินทางที่ช่วยสร้างโลกทัศน์ ชีวทัศน์ ทำให้เกิดวิสัยทัศน์
                                          จึงขอเก็บความทรงจำนำมาเล่าสู่กันฟัง
                                             ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต
                                             รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๒๐.๐๒ น. ณ ศาลาน้อยริมน้ำโขง ชายขอบประเทศไทย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 พ.ย. 2553, 01:40:37 โดย รวี สัจจะ... »
ใช่หวังจะดังเด่น  จึงมาเป็นสมณะ
เพียงหวังจะลดละ  ซึ่งมานะและอัตตา
เร่ร่อนและรอนแรม ไปแต่งแต้มแสวงหา
สัญจรร่อนเร่มา  ผ่านร้อยป่าและภูดอย
ลาภยศและสรรเสริญ  ถ้าหลงเพลินจิตเสื่อมถอย
พาใจให้เลื่อนลอย  จิตเสื่อมถอยคุณธรรม
       ปณิธานในการปฏิบัติธรรม

ออฟไลน์ nsp8428

  • ก็หมวยนี่คะ
  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 193
  • เพศ: หญิง
  • ชีวิตก้าวไปข้างหน้า วันเวลาไม่เดินถอยหลัง
    • ดูรายละเอียด
    • www.nsp8428@hotmail.com
    • อีเมล
กราบนมัสการพระอาจารย์ค่ะ
ช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นแล้ว พระอาจารย์เดินทางบ่อย
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

                                           

ออฟไลน์ ~เสน่ห์ack01~

  • ผู้คุมกฎ
  • *****
  • กระทู้: 5330
  • เพศ: ชาย
  • " ไม่เมาเหล้าแล้วเรายังเมารัก"
    • ดูรายละเอียด
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ขอบพระคุณที่เมตตาเล่าประสบการณ์ในการเดินทางไกลครับ

ทำบุญ วันคล้ายวันเกิด หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
วันอาทิตย์ ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ 

ออฟไลน์ รันตี

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 743
  • เพศ: ชาย
  • อยากเห็นผู้อื่นสุข จงฝึกตนให้มีเมตตา อยากเป็นผู้มีสุข จงฝึกตนให้มีเมตตา:ดาไลลามะ
    • ดูรายละเอียด
กราบนมัสการครับ ระยะทางยาวไกลเหลือเกินครับพระอาจารย์

เมตตาพระอาจารย์อภิญญา คณุตฺตโม ศิษย์ขอน้อมรำลึกพระคุณไว้ ณ ที่นี้

ออฟไลน์ berm

  • สิ่งที่ควรทำคือความดี..สิ่งที่ควรมีคือคุณธรรม..สิ่งที่ควรจำคือ...บุญคุณ
  • อัฏฐมะ
  • ***
  • กระทู้: 1008
  • เพศ: ชาย
  • อยู่คนเดียวระวังความคิด อยู่กับมิตรระวังวาจา
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
 :054:กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ....ไม่ได้อ่านบทความดีๆของพระอาจารย์หลายวันเลยครับ
ทุกคนย่อมมีปัญหาของตัวเองเกิดขึ้นตลอดเวลา  อยู่ที่ใครเลือกที่จะเดินหนีปัญหา...หรือเลือกที่จะแก้ไขปัญหา

ออฟไลน์ หลังฝน..

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 310
  • เพศ: ชาย
  • ทุกอย่างมีเหตุและผลเสมอ
    • MSN Messenger - webmaster@lifesyt-it.net
    • ดูรายละเอียด
    • www.lifestyle-it.net
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับผม ดูแลรักษาสุขภาพด้วยครับผม ทำงานหนักๆ ร่างกายก็ย่อมเสื่อมโทรม
ขอบพระคุณสำหรับบทความที่นำมาให้ศิษย์ได้อ่านกันครับผม  :054: :054: :054:
ความพยายามนั้นมีอยู่จริงในตัวตนของเรา สุดแท้แต่ความพยายามนั้นจะถูกดึงออกมาใช้ได้มากน้อยแต่เพียงใด

ออฟไลน์ ~@เสน่ห์เอ็ม@~

  • ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย พระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ แล ครูบาอาจารย์ผู้เกื้อหนุน สาธุ..
  • เด็กวัด
  • *****
  • กระทู้: 5894
  • เพศ: ชาย
  • ศิษวัดบางพระ
    • ดูรายละเอียด
กราบมนัสการพระอาจารย์ที่เคารพ กราบขอบพระคุณสำหรับประสบการณ์ที่เมตตาเล่าให้ฟังด้วยครับ  :054:

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
 :059: การเดินทางครั้งต่อไปใกล้จะมาถึงแล้ว หลังรับกฐินแล้วคงจะต้องเอ่ยคำอำลา
    ๖ ปีกว่าๆสำหรับวัดทุ่งเว้า จ.มุกดาหารได้ประสพการณ์มากมายหลายสิ่งหลายอย่าง
    ทั้งในทางโลกและทางธรรม ได้รู้จักจิตใจและนิสัยของคนรอบกายที่เข้ามามีส่วนร่วม
    ได้เห็นสัจจธรรมของชีวิต จากการคิดและพิจารณา " มีพบเจอ... ย่อมมีการจากลา "
    เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต การไม่ยึดติดในโลกธรรมทั้ง๘ นั้น คือวิถีทางของสมณะ
 :059: ไปในที่ ที่เขาต้องการให้ไป
                  อยู่พักอาศัย แล้วใจเป็นสุข
                         ใจไม่ทุกข์ ทุกอย่างย่อมสบาย
                               ไม่ว่าที่นั่น จะเป็นสถานที่ใด
                                     ขอให้มีความเจริญในธรรมเกิดขึ้น
                                             ก็เป็นบุญกุศล เป็นมงคลต่อตัวเราแล้ว...

ออฟไลน์ ทีครับผม

  • ฉัฏฐะ
  • *
  • กระทู้: 431
  • เพศ: ชาย
  • จะเป็นลูกศิษย์ที่ดีตลอดไป
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
กราบนมัสการครับ :054:ขอบพระคุณครับ

ออฟไลน์ derbyrock

  • คณะกรรมการ
  • *****
  • กระทู้: 2494
  • เพศ: ชาย
  • สติมา ปัญญาเกิด........ปัญหามา ปํญญามี.......
    • MSN Messenger - derbyrock@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
โลกและธรรมจึงต้องเดินไปด้วยกัน ปรับโลกเข้าหาธรรม ปรับธรรมเข้าหาโลก หาความเหมาะสมพอดีที่จะอยู่ด้วยกัน ให้เกิดความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ตามภูมิปัญญาและบารมีที่สะสมมาของแต่ละคนแ ประสานให้เกิดความลงตัว ความพอดี ชีวิตก็ย่อมมีความสุขทั้งในทางโลกและทางธรรม ก้าวไปพร้อมกันไม่ขัดแย้งกัน เพราะทุกคนนั้นมีธรรมะสัปปายะ คือการปฏิบัติธรรมที่เหมาะสมกับตัวเอง....
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ ยิ่งนานวันยิ่งเข้าใจ ยิ่งปรับโลกและธรรมให้ลงตัวมากขึ้นเท่าไหร่ ชีวิตก็สุขมากขึ้น เมื่อผมเข้าใจมากขึ้นผมเลยเข้าใจว่าทำไมบางคนปฎิบัติธรรมแล้วดูเหมือนมีทุกข์มากกว่าสุข ทำไมปฎิบัติหน้าดูเศร้าๆไม่มีความสุข ส่วนใหญ่เพราะเค้าเหล่านั้นไม่สามารถปรับทั้ง2อย่างให้ลงตัว หลายคนปฎิบัติธรรมแล้วต้องการอยู่ในโลกแห่งธรรมตลอดเวลาทั้งๆที่ตัวเองยังเป็นฆราวาส ยังมีหน้าที่ทางโลกมากมาย พอใครเห็นต่างก็จะคิดว่าคนนั้นไร้ศีลธรรมเป็นมารมาผจญ หรือบางคนพอปฎิบัติธรรมแล้วก็เคร่งครัดจนตัวเองรับไม่ไหว เป็นการเร่งรัดตัวเองมากเกินไป บางทีอ่านว่าพระอรหันต์ปฎิบัติแบบนี้คิดแบบนี้แล้วคิดว่าตัวเองทำได้ทันทีปฎิบัติทันทีคาดหวังทันทีว่าต้องทำได้ทันที ซึ่งเป็นไปไม่ได้ การเข้าใจในธรรมต้องอาศัยเวลาและความเพียร ดั่งที่พระอาจารย์โด่งสอนผมหลายครั้งว่า การเจริญในธรรมเปรียบได้กับการปลูกต้นไม้ ต้องค่อยเป็นค่อยไปหมั่นรดน้ำพรวนดินต้นไม่ก็จะค่อยๆเจริญเติบโต ต้องอาศัยเวลาเปรียบได้กับการเจริญก้าวหน้าในธรรม กราบขอบพระคุณพระอาจารย์อีกครั้งที่ทำให้2ปีที่ผ่านมา ผมมีเข้าใจในธรรมมากขึ้น ทุกครั้งที่มีข้อสงสัยพระอาจารย์จะแนะแนวทางให้เสมอมา คำตอบที่พระอาจารย์ให้ผมมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ทำให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้นคือ ถามผมว่าผมจะปฎิบัติธรรมไปเพื่ออะไร?และสอนผมว่าบางเรื่องเป็นกิจของสงฆ์ ไม่ใช่กิจของฆราวาส เป้าหมายเป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม แม้วันนี้ผมยังทำได้ไม่ดีแต่อย่างน้อยผมก็ทำดีขึ้นในแต่ละวันครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 พ.ย. 2553, 11:05:49 โดย derbyrock »

ความสุขที่แท้จริงรอคอยคุณอยู่.......เพียงแค่คุณนั่งลงแล้วหลับตา

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)
      อนุโมทนากับโยมตี๋ด้วยที่มีความเจริญในธรรม
ธรรมทั้งหลายนั้นอยู่ที่การกระทำของเราคือ " ทำ "
จงรู้และเข้าใจในสิ่งที่เราคิดและเราทำ "นั่นคือรู้จักตัวเรา "
เพราะจะไม่มีใครมาเข้าใจตัวเราเองมากกว่าตัวของเราเอง
เมื่อเรารู้จักตัวของเราแล้ว เราก็สามารถที่จะกำหนดทางเดินของเราได้
ว่าจะให้ไปสู่ทิศทางใด " มันอยู่ที่ใจของเราจะกำหนดอนาคตของตัวเรา "








ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
กิจของท่านช่างหนักหนามากมาย มากกว่าที่ทำผมทำงานเลี้ยงชีพหลายเท่าเลยครับ

ขอนมัสการพระคุณเจ้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ somboon matkeaw

  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 445
  • เพศ: ชาย
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล
ขอกราบนมัสการ พระคุณเจ้าครับ :054: :054: :054:

ออฟไลน์ arada

  • เรียนๆ รักๆ ปากกาถูกลัก ไม่พักเรียน
  • สัตตมะ
  • **
  • กระทู้: 1111
  • เพศ: ชาย
    • MSN Messenger - nuk_b@hotmail.com
    • ดูรายละเอียด
กราบนมัสการพระอาจารย์ครับ
พระอาจารย์เดินทางบ่อยๆ...ยังไงก็ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
ธรณีนี่นี้             เป็นพยาน

เราก็ศิษย์มีอาจารย์    หนึ่งบ้าง

เราผิดท่านประหาร     เราชอบ

เรา บ่ ผิดท่านมล้าง    ดาบนั้นคืนสนอง

ออฟไลน์ รวี สัจจะ...

  • รองประธาน
  • *****
  • กระทู้: 1137
  • รวี สัจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
    • ดูรายละเอียด
    • รวี สัจจะ สมณะไร้นาม (เคลื่อนไหวดุจสายลม)

ออฟไลน์ เด็กบางปลา

  • พระนวกะ วรปญฺโญ
  • ปัญจมะ
  • *****
  • กระทู้: 57
  • เพศ: ชาย
  • พระนวกะ วรปญฺโญ
    • MSN Messenger - tey.piya@hotmail.com
    • AOL Instant Messenger - -
    • Yahoo Instant Messenger - -
    • ดูรายละเอียด
    • นายปิยะ สุวรรณเดช
    • อีเมล
นมัสการครับหลวงพี่ ถ้าผมจะบวช ผมขอไปอยู่กับหลวงพี่ได้ไหมครับ
สัพพทานัง ธัมมทานัง ชินาติ   การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
เดินก่อน ถึงก่อน เเต่ฝันก่อน เเล้วไม่เดิน เมื่อไรจะถึง