ตถตาอาศรม เขานกตะกรุม ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
เสร็จจากงานกฐิน ออกเร่ร่อนรอนแรมจากริมฝั่งโขง ล่องใต้ไปทะเลอันดามัน จ.กระบี่
เก็บตัวปฏิธรรมอยู่ในหุบเขาสำนึกบาป สมาทานงดเว้นการฉันอาหารเป็นเวลา ๑๗ วัน
ฉันแต่น้ำและกาแฟ เพื่อให้กายเบาจิตโปร่ง เร่งความเพียรเจริญสติภาวนาวันละ ๑๘ ชั่วโมง
ทบทวนสภาวะธรรมกัมมัฏฐานที่เคยปฏิบัติมา เพียรพยายามรักษาจิตให้เป็นกุศลอยู่ตลอดเวลา
จนครบวันเวลาที่สมาทานอธิษฐานไว้ จึงได้ออกจากหุบเขา เพื่อไปเข้าอยู่ปริวาสกรรมชำระศีล
ที่วัดสาวชะโงก อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา
ออกจากหุบเขาสำนึกบาป มีญาติโยมถวายที่ดินจำนวน ๑๕ ไร่ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี
เพื่อให้สร้างเป็นวัด จึงแวะเข้าไปดูสถานที่ที่ดยมเขาถวาย ซึ่งดูแล้วก็เหมาะดี แต่ยังไม่รับปาก
ตกลงกับโยมเจ้าของที่ ขอเป็นหลังปีใหม่ไปแล้ว ออกจากปริวาสกรรมที่วัดสาวชะโงกเสียก่อน
แล้วจึงจะให้ตำตอบแก่โยม
เข้าอยู่ปริวาสกรรมที่วัดสาวชะโงกเป็นเวลา ๙ คืน ๑๐ วัน ออกจากอยู่ปริวาสกรรมแล้ว
ญาติโยมจากชลบุรีมารับเพื่อไปดูสถานที่ ที่จะสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นรีสอร์ทร้างมานาน
ไม่มีคนเข้าพัีก เนื้อที่ประมาณ ๑๒ ไร่ สิ่งปลูกสร้างพร้อมและมีสวนป่าเหมาะสำหรับเป็นสถานที่
ปฏิบัติธรรม แต่ตกลงราคากับเจ้าของที่ไม่ได้ เพราะเขาต้องการเงินสดชำระงดเดียวครบตามจำนวน
ซึ่งราคาที่เขาตั้งไว้คือ ๑๒ ล้าน เกรงใจลูกศิษย์ว่าจะเป็นภาระหนักเกินไป จึงตัดสินใจปฏิเสธไป
เก็บบริขารเตรียมตัวเดินทางกลับไปหุบเขาสำนึกบาปที่ จ.กระบี่ ตอนสายๆก่อนจะกลับ มีญาติโยม
จาก บ่อวิน ศรีราชามานินมต์ให้ไปดูที่ดิน ที่เขานกตะกรุม อ.บ้านบึง ต่อเขตกับบ้านมาบปูอ.ศรีราชา
ซึ่งโยมเขานิมนต์ไว้หลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้สนใจเพราะสื่อสารกันผิด (นั่งรถผ่านหลายครั้งแล้ว แต่
โยมชี้จุดผิดไป ไปชี้ตรงที่เป็นหน้าผาสูง จึงไม่ได้สนใจ ซึ่งคืนสุดท้ายก่อนจะกลับใต้ โยมเขามานิมนต์
อีกครั้ง จึงต้องจำใจไปดู และเมื่อเห็นสถานที่จริงแล้ว ก็ต่างจากที่คิดไว้มากเลย เป็นป่าหินและป่าไม้
เหมาะแก่การสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม จึงตัดสินใจตกลงใจที่จะใช้สร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ณ ที่นี้
๑๙ มกรารคม ๒๕๕๔ ทุกอย่างลงตัว การเจรจาได้ข้อยุติเสร็จสมบูรณ์ จึงนำญาติโยมลูกศิษย์เข้าไปพัฒนา
ปรับปรุงสถานที่ ทำทางขึ้นลงเขา ปรับปรุงกระท่อมร้างเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราว และออกตระเวนดูบ้านสำเร็จรูป
เพื่อจะเอามาตั้งเป็นกุฏิกัมมัฏฐาน และเป็นศาลาไหว้พระสวดมนต์ ไปเห็นเรือนไทยแฝดที่เขาสร้างโชว์ไว้หลังหนึ่ง
มี ๑ ห้องโถง ๒ ห้องนอน ๑ ห้องครัว ๑ ห้องทำงาน และมีชานชาลาระเบียงกลางบ้านอีก ๑ ที่่ ดูแล้วเหมาะสมดี
มีเนื้อที่ใช้สอยตามที่ต้องการ ราคาอยู่ที่ ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท คุยกับเจ้าของต่อรองราคากัน จนเกิดศรัทธาลดให้เหลือ
๑ล้านบาท จึงตกลงกันได้ โดยเอากุฏิกัมมัฏฐาน ๑ หลัง ราคา ๑๗๐,๐๐๐ บาท กับศาลาเรือนไทยแฝดราคา ๑ล้านบาท
กำหนดสร้างกุฏิวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ใช้เวลา ๑๐ วัน สร้างศาลาวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ กำหนดเวลา ๔๕ วัน(เสร็จก่อนสงกรานต์)
๒๑ มกราคม ๒๕๕๔ เข้าไปปักกรดในพื้นที่เป็นวันแรก สมทานงดเว้นการขบฉันเป็นเวลา ๒๐ วัน(จนกว่ากุฏิจะเสร็จ)
ตัดสินใจตกลงใจสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งใหม่ ณ เขานกตะกรุม หมู่ ๗ ต. คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยให้ชื่อว่า...
ธรรมสถาน ตถตาอาศรม....จากนาคาพิทักษ์ริมฝั่งโขง มาเป็นพยัคฆ์บูรพา บนภูผาเขานกตะกรุม จ.ชลบุรี...
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เวลา ๑๒.๓๒ น. ณ ตถตาอาศรม เขานกตะกรุม บ้านบึง ชลบุรี