ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
เป็นข้อควรคิดสำหรับผู้ที่จะฝึกจิต เจริญสติภาวนา เพราะจะพบกับปัญหาเมื่อมีการภาวนาปฏิบัติ
เกิดความอึดอัด ปวดเมื่อย มึนงงและตึงไปทั่วกาย ทำให้เกิดความไม่สบายกาย ไม่สบายใจในเวลาปฏิบัติ
ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอย่างนั้น ก็เพราะเรามีความตั้งใจปฏิบัติมากเกินไป ภาษานักปฏิบัติเรียกกันว่า
" การตั้งจิตหนัก " เพราะการที่เราตั้งใจปฏิบัติมากเกินไปนั้น ทำให้เกิดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ โดยที่เรานั้น
ไม่รู้ตัว เมื่อมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ย่อมทำให้เลือดลมนั้นเดินไม่สะดวก เส้นเอ็นเส้นประสาทเกิดการหดตัว
และลมหายใจไม่ปกติอย่าที่เคยเป็น เพราะการที่เราเข้าไปกำหนดให้ลมหายใจมันเข้าออกนั้น มันทำให้ระบบ
การหายใจ การทำงานของหัวใจและปอด ผิดปกติไปจากที่เคยเป็น มันไม่เป็นธรรมชาติปกติที่เคยเข้าออกของมัน
เพราะเราไปบังคับลมหายใจให้มันเข้าออก และบางครั้งมันจะเกิดอาการลมค้างอยู่ในกาย เพราะว่าเราหายใจออกไม่หมด
มันจึงทำให้เกิดอาการแน่นขึ้นในทรวงอก มึนศีรษะ ตาพร่ามัว สมองมึนงง เกิดอาการลมขึ้นเบื้องสูง สาเหตุมาจากการที่เรา
นั้นอัดลมเข้าไป แล้วระบายออกไม่หมด
อาการที่ปวดเมื่อยตามร่างกายนั้น เกิดจากการที่เราเกร็งกล้ามเนื้อ อยากจะนั่งให้ตัวตรง เกร็งหน้าท้อง เกร็งที่หัวไหล่
เกร็งที่ต้นขา ( เพื่อจะให้ท่านั่งนั้นมันสวย ) มันก็เลยทำให้ร่างกายปวดเมื่อย นั่งไม่ได้นาน เกิดความรำคาญ เพาะอาการปวด
เมื่อปฏิบัติแล้วเกิดความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ทำให้ครั้งต่อไป ไม่อยากจะปฏิบัติ เพราะทำไปแล้วจิตไม่พบกับความสงบ
เราจึงต้องมาทบทวนพิจารณากันใหม่ ปรับกายปรับจืิต กันเสียใหม่ ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติ ปรับกายของเราให้มีความสบาย
กล้ามเนื้อได้รับการผ่อนคลาย ลมหายใจไม่ติดขัด ปรับจิตปรับใจให้มีความพร้อม คือการน้อมจิตของเราให้เป็นบุญ เป็นกุศล
ให้มีความรู้สึกสดชื่นเบิกบาน มีความพึงพอใจในการปฏิบัติ (ทำใจให้สบาย ทำกายให้สะดวก) แล้วจึงเข้าสู่การเจริญภาวนา
และถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมาอย่างที่ได้กล่าวไปนั้น ให้แก้ด้วยการเคลื่อนไหว ปรับกาย ปรับจิตเสียใหม่ แล้วจึงค่อยภาวนาต่อไป
( เคลื่อนไหวทางกาย สะลายทางจิต ) เพราะการที่เราจะฝืนนั่งต่อไปนั้น กำลังของเรายังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับอาการปวด
เมื่อยเหล่านั้น ฝืนทนนั่งไปใจก็ไม่สงบ มีแต่จะฟุ้งซ่าน รำคาญใจมากยิ่งขึ้น (การปฏิบัติธรรม เป็นการทำที่จิต มิใช่การโชว์ )
จึงขอฝากไว้สำหรับผู้ที่สนใจในการปฏิบัติทั้งหลาย นำไปคิดและพิจารณา เพื่อความก้าวหน้าเจริญในธรรมของตัวท่านเอง
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เวลา ๑๘.๒๒ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี