ตถตาอาศรม เขาเรดาห์ บ้านบึง ชลบุรี
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔
การเตรียมกาย เตรียมใจ ก่อนเข้าสู่การปฏิบัตินั้น เราต้องปรับกาย ปรับจิต
ปรับความคิดของเราเสียก่อน ทำจิตทำใจให้โปร่งโล่งเบาสบาย ทำกายให่ผ่อนคลาย
ไม่เกร็งไม่เคร่งไม่เครียด น้อมจิตน้อมใจระลึกนึกถึงบุญกุศลความดีที่เราได้เคยกระทำมา
เพราะว่าเมื่อเราระลึกนึกถึงบุญถึงกุศล ใจของเรานั้นก็จะเกิดความปิติยินดี มีความสบายใจ
เพราะว่าสิ่งที่เป็นบุญนั้น คิดถึงครั้งใดใจก็เป็นสุข เมื่อใจของเราระลึกนึกถึงบุญใจก็เป็นกุศล
ทำให้มีความเอิบอิ่ม ปิติ มีกำลังใจที่จะทำความดีต่อไป เรียกว่าการสร้างปิติจากภายนอก
เพื่อเข้าสู่ภายใน เมื่อใจของเรามีความสุขความสบายด้วยกุศลจิต มีความเพลิดเพลินในการ
ระลึกนึกคิดถึงบุญกุศล เป็นการเริ่มต้นตั้งจิตของเราก่อนเข้าสู่การภาวนา เพราะคำว่าภาวนานั้น
คือการพัฒนา การเจริญขึ้น เมื่อจิตเริ่มต้นของเราเป็นกุศลจิต ความเป็นกุศลจิตก็จะเจริญขึ้น
เมื่อภาวนาไป ใจก็จะพบกับความสุขความสงบ ไม่วุ่นวาย ฟุ้งซ่าน รำคาญใจ ไม่ขัดข้อง อึดอัด
เพราะว่าได้ปรับจิตปรับใจให้มีความพร้อมก่อนแล้ว
อย่าพยามยามกำหนดมากจนเกินไป ตามดูตามรู้ ตามเห็น เท่าที่กำลังของเราจะทำได้
ค่อยๆเป็นค่อยๆไป สั่งสมอบรมพละกำลังของสติไปเรื่อยๆ จนมันมีกำลังแก่กล้าเป็นอินทรีย์พละ
การปฏิบัติธรรมนั้นเหมือนกับการฝึกซ้อมของนักกีฬา กว่าเขาจะได้รับชัยชนะ ทำสถิติได้นั้น
เขาต้องผ่านการฝึกฝน ฝึกซ้อมมาเป็นเวลายาวนาน อย่าเอาความอยากของเราเข้าไปกำหนด
ให้มันเป็นไป ให้มันเป็นไปโดยธรรมชาติของมัน เหมือนที่เคยได้กล่าวไว้ ความเจริญในธรรม
นั้นเหมือนกับการปลูกต้นไม้ มันจะเจริญงอกงามของมันไปตามธรรมชาติและการเอาใจใส่ดูแล
ของผู้ปลูก เราอยากจะให้มันเจริญงอกงามตามใจของเรานั้นไม่ได้ มันต้องเป็นไปตามวัยและเวลา
การเจริญจิตภาวนานั้นก็เช่นกัน เราต้องหมั่นกระทำอยู่เนืองนิจ ทำจนเป็นกิจวัตร จนจิตนั้นคุ้นเคย
กับการปฏิบัติภาวนา กำลังของสติจะแก่กล้าต้องอาศัยระยะเวลาที่ต้องหมั่นเพียรภาวนา
การปฏิบัติธรรมเจริญภาวนานั้น เป็นการกระทำที่จิต ที่ความคิด ไม่ใช่การโชว์หรือการโอ้อวด
เราจะรู้ด้วยตัวของเราเอง ว่าจิตของเราสงบหรือไม่ อย่าได้เอาตัวของเราการปฏิบัติของเรานั้น
ไปเปรียบเทียบกับผู้อื่น เพราะว่าแต่ละคนนั้น แตกต่างกันด้วยธาตูและอินทรีย์ บารมีที่สั่งสมมานั้น
แตกต่างกัน สภาวะธรรมของแต่ละคนนั้นเป็นปัจจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตน จึงไม่ควรที่จะเอาไปเปรียบ
เทียบกับผู้อื่น เพราะแต่ละคนนั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเพียงความคล้ายและใกล้เคียงเท่านั้น
จะไม่เหมือนกันไปหมดทุกอย่าง จึงของฝากไว้ให้เป็นข้อคิด สำหรับผู้ที่ฝึกจิตเจริญภาวนา
ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิตแด่มวลมิตรทุกผู้คน
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เวลา ๑๘.๓๕ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี