ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
พุธที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔
........วันนี้เขียนบทกวีช้าไป เพราะมีภาระกิจมากมายในยามเช้า
สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา มีทั้งลมและฝน ทำให้ใบไม้ร่วงหล่น
มากกว่าปกติที่เคยเป็นมา ทำให้ต้องใช้เวลาในการทำความสะอาด
ปัดกวาดทางเดินและที่พักมากกว่าทุกวันที่ผ่านมา กวาดใบไม้ไป
ก็พิจารณาธรรมไปด้วย ใบไม้ที่หล่นลงมาก็เปรียบเหมือนกิเลสที่จรมา
ถ้าเราไม่เฝ้าระวังรักษา มันก็จะทับทม ทำให้ยากยิ่งขึ้นในการที่จะจัดการ
ทำความสะอาดปัดกวาดมัน ฉันใดก็ฉันนั้น กิเลสที่จรเข้ามา ถ้าเราไม่พิจารณา
ขจัดมันออกไป ปล่อยให้มันเกาะกุมจิตของเราอยู่ มันก็เหมือนดินพอกหางหมู
ที่นับวันจะเพิ่มขึ้น...จิตนี้บริสุทธิ์ประภัสสร แต่กิเลสที่จรมาทำจิตนี้ให้เศร้าหมอง...
....เรื่องเล่าจากเขาเรดาร์ " ตถตาอาศรม ".....
...ร่วงหล่นบนทางเท้า ทุกค่ำเช้าเฝ้าปัดกวาด
รักษาความสะอาด มิให้ขาดในทุกวัน
ใบไม้เจ้าร่วงหล่น ตามกาลกลเป็นเช่นนั้น
ร่วงหล่นทุกคืนวัน เปลี่ยนแปรผันตามเวลา
ร่วงหล่นลงสู่พื้น ร่วงลงคืนพสุธา
ตามกาลและเวลา มีเกิดมามีดับไป
ใบไม้ให้ร่มเงา เมื่อยามเจ้าเขียวสดใส
ไม่นานก็จากไป ใบไม้ใหม่มาทดแทน
ร่วงหล่นลงสู่พืน เจ้ากลับคืนสู่ดินแดน
มิเคยจะหวงแหน เจ้าทดแทนคุณแผ่นดิน
เปื่อยเน่าย่อยสลาย มีความหมายไปทั้งสิ้น
พันธุ์ไม้ได้ดูดกิน ตอบแทนดินถิ่นที่มา
...ใบไม้แม้นน้อยนิด แต่ชีวิตไม่ไร้ค่่า
ตั้งแต่กำเนิดมา มีคุณค่านับอนันต์
คนเรานั้นควรคิด ถึงชีวิตที่เป็นนั้น
ผ่านคืนและผ่านวัน เคยสร้างสรรค์ประโยชน์ใด
ชีวิตอย่าไร้ค่า อย่าน้อยกว่าเจ้าใบไม้
รีบสร้างหนทางไป เพื่อสิ่งใหม่ที่มั่นคง
มั่นคงดำรงค์อยู่ และเป็นผู้ไม่โลภหลง
ความดีนี้ยืนยง จะเสริมส่งซึ่งศรัทธา
ชีวิตที่เหลืออยู่ จงเรียนรู้และศึกษา
เสริมสร้างทางปัญญา และรักษาคุณธรรม
คุณธรรมนำชีวิต คุ้มครองจิตและชี้นำ
ก่อเกิดกุศลกรรม ที่จะนำสู่ความดี....
...ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร...
๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๙.๒๘ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี