ปีนัง ครั้งหนึ่ง เคยเป็นเกาะหมากของไทย แต่วันนี้ไม่ใช่ ทำให้ความศิวิไลซ์เลิศหรูอลังการ#3

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

การนำเสนอในครั้งนี้กระผมขออนุญาติ แบ่งย่อยกระทู้ให้สั้นลง เพื่อความสะดวกในการเปิดดูของสมาชิกที่ความเร็วอินเตอร์เน็ตไม่สูง โดยสามารถเข้าไปดูกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ได้ดังต่อไปนี้

ปีนัง ครั้งหนึ่ง เคยเป็นเกาะหมากของไทย


ปีนัง ครั้งหนึ่ง เคยเป็นเกาะหมากของไทย แต่วันนี้ไม่ใช่ ทำให้ความศิวิไลซ์เลิศหรูอลังการ#2

ขึ้นมาอีกนีดมีห้องโถงใหญ่ให้ได้ถ่ายรูปและพักผ่อนจากอาการลิ้นห้อยได้เป็นอย่างดี ก็เลยหยุดอยู่แถวนี้นานหน่อย

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

รอบ ๆ ห้องโถงใหญ่ที่แวะพักกัน

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

หลังจากที่ขึ้นไปอยู่ที่สูงในระดับหนึ่งแล้วก็ลองถ่ายลงมามุมต่ำๆ กว้างๆ ดูบ้าง

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

สถานที่ยังมีที่สูงกว่าีนี้ แต่ชาวคณะมาได้สูงสุดแค่นี้ครับ ที่เหลือขอบาย ครับ ไว้โอกาสหน้าแล้วกันเพราะต้องรีบกลับมาที่รถทัวร์ให้ทันเวลาครับ

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

เอาอีกซักหน่อย ไหนๆ ก็ขึ้นมาได้แค่นี้เอง

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาของการหันหลังกลับลงมาสู่เบื้องล่างแล้วครับ ระหว่างทางก็แวะเก็บภาพไปเรื่อยๆ เอื่อยๆ ตามประสาคนหม้ายไหรครับ

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

เริ่มจะลงมาถึงระดับกลางๆ ของวัดจีนแห่งนี้แล้วครับ

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

จากนั้นลงมาสู่ด้านล่างๆ ลงมาพบกับร้านค้า ซึ่งวางขายสิ่งเหล่านี้  จนถึงปัจจุบัน ตัวข้าพเจ้าก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ตกลง ธรรมชาติสรรค์สร้าง หรือ มนุษย์ประดิษฐ์ มันขึ้นมากันแน่เนื่ย ทำไมมันมากมายและวางขายกันเกลื่อนกลาดขนาดนี้

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

สถานที่ต่อไป เป็นโรงพระจีนครับ ไกด์ พาเรามาดู ค้างคาวกัน เห้อ ถ้ารู้ว่าจะมาดุค้างคาว จะบอกไกด์ว่า ไม่ดูหรอกแถวบ้านก็มี ยิ่งพอไปถึงเจอค้างคาว นับตัวได้อีกยิ่งหมดแรงเลยนิ

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

มานับกันดูมีค้างคาวทั้งหมด กี่ตัว อิอิ

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

บรรยากาศภายในโรงพระจีน ตกแต่ง เป็นระเบียบเรียบร้อยดี เป็นแถว เป็นแนวดี เหมาะแก่การถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง เสียแต่ว่าคนถ่ายฝีมือไม่ถึง มุมมองยังไม่แตกฉาน ไม่งั้นคงได้ภาพแจ่มๆ เยอะเลย

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

มาดูด้านหน้าโรงพระจีนกันบ้าง สิ่งที่เห็น ก็เป็นเช่นนี้ครับ

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

จากนั้นก็เดินทางออกจากเกาะปีนัง เพื่อกลับสู่ที่พักต่อไป ข้ามสะพานปีนัง

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

สิ้นสุดการนำเสนอในชุดนี้ไว้เีพียงเท่านี้ครับ

ผิดพลาดประการใดก็ขอ อภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

เนื่องจากภาพชุดนี้ เกิดอาการปวดหัว(จากการขาดกาแฟ) อย่างรุนแรง จึงขาดความพิถีพิถัน ในการถ่าย ภาพออกมาจึงได้แค่นี้ ****อิอิอิ ต้องหาข้ออ้างก่อน เรื่องของเรื่องคือไม่ว่ายังไงก็ถ่ายได้แค่นี้แหละ


ขอคำแนะนำด้วยนะครับ ต้องปรับปรุง ตรงจุดไหน อย่างไรบ้าง เพื่อจะได้นำไปฝึกฝนต่อไป

ขอส่งท้ายด้วยภาพนี้แล้วกัน นานๆ ทีจะเจอรถแบบนี้ในมาเลเซีย ก็เลย กดมาซะ แต่ก็ยากส์ลำบาก พอสมควรเพราะรถทั้ง ๒ คันกำลังวิ่งอยู่ และ เจ้ารถทัวร์ มันก็โครงยิ่งกว่าเรือหล่าว กว่าจะได้ภาพนี้มา หนุกดี ได้ยินเสียงมันมาก่อนทางด้านข้างก็เลยยกล้องรอเอาไว้เลย พอขึ้นเทียบเห็นหัวเท่านั้น ใส่เป็นชุดเหมือนปีนกลเลย คัดแล้วได้มาแค่ภาพเดียวนี้แหละ 55555555

การนำเสนอในครั้งนี้กระผมขออนุญาติ แบ่งย่อยกระทู้ให้สั้นลง เพื่อความสะดวกในการเปิดดูของสมาชิกที่ความเร็วอินเตอร์เน็ตไม่สูง โดยสามารถเข้าไปดูกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้ได้ดังต่อไปนี้

ปีนัง ครั้งหนึ่ง เคยเป็นเกาะหมากของไทย


ปีนัง ครั้งหนึ่ง เคยเป็นเกาะหมากของไทย แต่วันนี้ไม่ใช่ ทำให้ความศิวิไลซ์เลิศหรูอลังการ#2

[saken6009]

เหมือนได้ไปท่องเที่ยวเองเลยครับ

                                       

ขอบคุณท่าน เผ่าพงษ์พระกฤษณะ ที่นำภาพวัดต่างๆบนเกาะปีนัง มาให้พี่น้องศิษย์วัดบางพระได้ชม

                                                                                                                                    

(ขออนุญาตเข้ามาชมภาพ ขอบคุณมากครับ)

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

ขอบคุณมากครับ ที่เข้ามาชมภาพ และ แสดงความคิดเห็นในกระทู้ อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้ผู้นำเสนอได้เป็นอย่างดี เพราะจะได้รู้ว่ามีคนดูอยู่อย่างน้อยก็ ๑ คน คือคนที่แสดงความคิดเห็นภายในกระทู้ครับ 

[john_4682]

ถายภาพได้สวยมากแล้วครับท่านขอบคุณที่แบ่งปันให้ชม

[ทรงกลด]

ขอบพระคุณท่าน เผ่าพงษ์พระกฤษณะ
ที่นำภาพงดงามและเล่าเรื่องราวต่างๆให้อ่านครับ

ท่านถ่ายภาพได้สื่อถึงเรื่องราวต่างได้ดีเลยครับ

[เผ่าพงษ์พระกฤษณะ]

ผมเน้นถ่ายภาพเล่าเรื่องราวอ่ะ ครับ เพราะถ้าถ่ายภาพแนวศิลป์ ผมยังห่างไกลความเจริญมากมายเลยครับ ก็เลยอาศัยถ่ายภาพเื่พื่อเล่าเรื่องราวเอาครับ ถึงภาพไม่ค่อยงดงามเท่าไหร่ แต่เสริมด้วยเนื้อหาสาระและเรื่องราวก็พอช่วยได้บ้างครับผม

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า "ภาพ ๑ ภาพ มีค่าเท่ากับคำพูด ๑,๐๐๐ คำ"