ตถตาอาศรม เขาเรดาร์ บ้านบึง ชลบุรี
เสาร์ที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ ๒๕๕๔
๐ เช้าวันหนึ่ง..........
เมฆฝนบนฟ้าปกคลุมมามืดดำ
สายฝนหล่นพรำมาในยามเช้า
สายลมพัดพาความหนาวมาจากทิศตะวันออก
ซุกกายใต้ผ้าห่มไม่อยากจะลุกจากที่นอน
อาลัยอาวรณ์อยากที่จะนอนต่ออีกสักหน่อย
แล้วตัดใจลุกจากที่นอนเก็บหมอนและผับผ้าห่ม
๐ จิตใจเริ่มสับสน........
กับสายฝนที่ตกลงมาและอากาศที่หนาวเย็น
เกิดสองความคิดขึ้นมาในจิตใจ
จะออกไปรับบิณฑบาตรดีหรือไม่
ออกไปจีวรต้องเปียกแน่เลย
ตากฝนอาจจะทำให้ไม่สบายเป็นหวัดได้
๐ แต่อีกความคิดหนึ่ง......
ถ้าเราไม่ออกไปญาติโยมเขาจะรอเราอยู่ไหม..?
อาหารที่เขาเตรียมไว้จะเป็นอย่างไร..?
ญาติโยมเขาจะกังวลใจมากไหม..?
ความคิดสองอย่างเกิดขึ้นในใจ
จะเลือกเอาอย่างไหนกันดี..?
๐ สายฝนโปรยปราย.....
เดินเลาะไปตามทางที่ใช้เดินอยู่ประจำ
สายลมหนาวผัดต้องกายให้หนาวสะท้าน
จีวรโดนละอองฝนเปียกกระชับกาย
ญาติโยมนั่งรอเรียงรายสองข้างทาง
.....รอยยิ้มเกิดท่ามกลางสายฝน....
๐ ขอขอบคุณ.......
การตัดสินใจที่ถูกต้องและสายฝน
ขอบคุณผู้คนที่ไม่เสื่อมศรัทธา
ขอบคุณท้องฟ้าและกาลเวลา
ขอบคุณความคิดทั้งสองทาง
....ขอบคุณรอยยิ้มกลางสายฝน....
๐ ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจิตฝ่ายไหนจะมีอำนาจ
มีพลังมากกว่ากัน บางครั้งการตัดสินใจที่ผิดพลาดเพียงครั้งเดียวนั้น
มันก็จะมีผลกระทบไปถึงอนาคตอย่างมากมาย และเปลี่ยนแปลง
วิถีชีวิตให้ตกต่ำลงใต้ จึงจำเป็นต้องใช้สติและปัญญา ในการพิจารณา
ตัดสินใจว่าทำอะไรลงไปแต่ละครั้ง จงมองให้เห็นผลกระทบรอบด้าน
ที่จะเกิดขึ้น จากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของเรา...
แด่ศรัทธาของผู้คนในเรื่องบุญกุศลและศีลทาน
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ด้วยไมตรีจิต
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร
๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๘.๔๐ น. ณ ตถตาอาศรม บ้านบึง ชลบุรี