ทัวร์นรก
"นายหนุ่ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกบนถนนกำแพงเพชร 6
ผมเคยเล่าเรื่องโดนผีหลอกที่นิคมรถไฟ ก.ม.11 มา สองครั้ง ทั้งเห็นลุงม้วน คนขับตุ๊กตุ๊ก มาซดยาดองที่หน้าเพิงชุมชนภักดีตอนเย็น ทั้งที่แกนอนตายแหงแก๋อยู่ที่วัดเสมียนนารีแล้ว แต่ผมไม่รู้มาก่อน...กับเรื่องหนุ่มสาวเกี่ยวก้อยเข้าไปนั่งจู๋จี๋กันที่โต๊ะม้าหินใต้ร่มไทรตอนดึก พอผมกับเพื่อนตามไปดูเพราะเจ้าหงหาว่าผมตาฝาด...
อ้าว? หนุ่มสาวที่หันมามองน่ะไม่ยักมีหน้าตาหรอกแฮะ!
วันต่อมา เจ้าหงพาผมเลยไปชุมชนพัฒนา อยู่ถัดสามแยกรถไฟไปนิดเดียว...บ้านช่องแออัดยัดเยียดไม่แพ้ชุมชนภักดี ตอนเย็นๆ มีผู้คนมานั่งๆ นอนๆ รับลมกันคึกคัก
อารามกลัวผีทำให้ไม่อยากไปแถวนั้นกลางค่ำกลางคืน แต่วัยหนุ่มคะนองอย่างพวกเรามักลืมง่าย รักสนุก ชอบเที่ยวเตร่เฮฮา ยิ่งตอนกลางคืนมีแสงสีสวยๆ งามๆ ล่อตาล่อใจ จะว่าเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟก็คงไม่ผิดหรอกครับ
วันดีคืนร้ายก็โดนผีหลอกเข้าอีกจนได้!
คืนนั้นตรงกับวันเสาร์ เราสามคนนัดแนะกันไปเที่ยวผับที่หน้าอ.ต.ก. จุดนัดพบก็ที่หน้าชุมชนภักดีตามเคย พอเจ้าหงรับเจ้าตี๋ซ้อนท้ายมาแถวหน้าเพิงยาดองพวกเราก็เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟไปออกถนนกำแพงเพชร 6 เลี้ยวขวาผ่านอู่รถทัวร์ที่คงวิ่งสายอีสานโดยเฉพาะ เห็นมีแต่ป้ายว่าไปขอนแก่น, อุดรฯ, หนองคาย, เลย, นครพนม ฯลฯ จอดอยู่เป็นสิบๆ คัน ผมเคยแวะไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่มะระที่หน้าอู่ ยอมรับว่าอร่อยติดลิ้นเอาการ
คราวนี้บึ่งรวดเดียวไปร้านขาประจำที่มี "น้องสวย" สาวเสิร์ฟอวบอึ๋มเป็นอาหารตาของเสือหนุ่มและสิงห์เฒ่า ถือว่าเป็นกับแกล้มชนิดวิเศษ...ซดเหล้าอุ่นเครื่องกันที่นั่นไปก่อน คืนนั้นคุณเธอสวมเสื้อรัดรูปคอกว้าง เจ้าตี๋มองเห็นเนินอกขาวผ่องเบียดเสียดกันเป็นร่องลึกก็ทำท่าเหมือนจะรากเลือดลงแดงซะให้ได้
อ้าว? เจ้าหงดันมีเรื่องผีในรถทัวร์มาเล่าให้ฟังอีกแล้วซีครับ!
แถวสถานีขนส่งหมอชิต 2 แยกไปถนนกำแพงเพชรนั่นแหละ ตอนดึกๆ มีคนเห็นรถทัวร์แล่นผ่านไปช้าๆ เปิดไฟสว่างโร่ ผู้โดยสารนั่งตัวแข็งทื่อหันมามอง... หน้าตามีแต่เลือดแดงเถือก แถมเหวอะหวะน่าสยด สยองสิ้นดี
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโดนผีหลอกเต็มเปา คนที่เห็นน่ะขี่มอเตอร์ไซค์อย่างพวกเราร้องจ๊าก...รถเผ่นพรวดตกถนนลงไปแอ้งแม้งอยู่ในพงหญ้า ไม่แข้งขาหักก็ถือว่าบุญแล้ว
เจ้าตี๋มีอุปนิสัยกลัวผีสุดๆ สังกัดบริษัทตาแหกเหมือนผม ละสายตาจากหน้าอกหน้าใจมหึมาของน้องสวย หันมาคำรามว่ามึงจะเล่าเรื่องผีไปหาสามง่ามอะไรวะ?
เจ้าหงยักคิ้วตอบหน้าตาเฉยว่า...กูเล่าเพื่อเบรกอารมณ์มึงไงล่ะ! เห็นจ้องส้มโอสองลูกของน้องสวยจนนัยน์ตาหวิดถลนออกมานอกเบ้าแน่ะ! เจ้าตี๋เลยยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันไปมองบั้นท้ายงอนงามของน้องสวยที่กำลังเดินยักคิ้วผ่านไป คว้า เหล้ามาซดฮวบใหญ่
ราว 4 ทุ่มเราก็ย้อนไปทางหน้าอ.ต.ก.ฝั่งตรงข้ามมีผับดังๆ หลายแห่ง ลูกค้าส่วนมากเป็นวัยรุ่น แต่เราไปหาความสุขไม่ได้ไปหาเรื่องก็เลยไม่เคยเกิดปัญหาอะไรซักที...จนกระทั่งขากลับตอนตีหนึ่งเศษ...
ต้องยอมรับว่าค่อนข้างมึนกันตามสมควร ร้องเตือนกันว่าขับรถช้านิด ระวังเอาไว้หน่อย ถึงทางกลับไม่มีด่านก็เถอะ อย่าประมาทเป็นดีที่สุด!
ลมเย็นๆ ที่พัดวูบเข้าปะทะทำให้หูตาสว่างขึ้น จนใกล้จะถึงทางลัดข้ามทางรถไฟเข้าชุมชนภักดี ผมเหลือบไปทางอู่รถทัวร์เหมือนมีอะไรดลใจ
แสงไฟสะดุดตาชอบกล ร้ายก๋วยเตี๋ยวไก่ปิดเงียบ แต่มีรถทัวร์คันหนึ่งจอดอยู่ริมถนน เปิดไฟสว่างทั้งคัน เห็นผู้โดยสารนั่งอยู่เต็ม...ที่นี่ไม่ใช่สถานีขนส่งนี่นา แถมไม่ใช่ทางผ่านอีกต่างหาก...ผมเรียกเจ้าหงที่ตีคู่กันมาด้านใน ก่อนจะชะลอรถลงโดยไม่รู้ตัว
นรกเป็นพยาน! ผู้โดยสารริมหน้าต่างทุกคนหันหน้ามาทางเราเป็นจุดเดียวกัน...ดูแน่นิ่ง เยือกเย็น เลือดเปรอะ นัยน์ตาเบิกถลน...ผมแว่วเสียงเพื่อนทั้งสองคนด่าทอเต็มสองหูอื้ออึง ตามด้วยเสียงเร่งเครื่องสนั่น เคล้ากับเสียงหัวเราะแหบโหยดังไล่หลังเขย่าขวัญสิ้นดี
เจ้าหงเลี้ยวพรวด ส่วนผมห้อตะบึงไปข้างหน้าด้วยความตกใจจนลืมตัว
ตอนนั้นไม่มีใครห่วงใครนอกจากตัวเอง! ผมกลับไปนอนจับไข้อยู่ 3 วัน เพื่อนทั้งสองก็มีอาการปางตายพอๆ กัน...ไม่ช็อกตายคาที่ก็นับว่าเป็นบุญกุศลแล้วละครับ!
ขอบคุณเรื่องเล่าจากข่าวสด
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREEzTURVMU13PT0=