ผู้เขียน หัวข้อ: ผีสาง ขมังเวทย์ ทำสวย รวยทางลัด ความเชื่อที่สังคมต้องทบทวน(ลอกเค้ามา)  (อ่าน 2137 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ผีสาง ขมังเวทย์ ทำสวย รวยทางลัด ความเชื่อที่สังคมต้องทบทวน


ห้ามขึ้นบ้านใหม่ในวันเสาร์ ห้ามเผาผีในวันศุกร์ ห้ามแต่งงานในวันพุธ ห้ามโกนจุกในวันอังคาร หรือที่ท่องบ่นกันจนติดปากว่า ?วันพุธห้ามตัดพฤหัสห้ามถอน?(ตัดผม ตัดเล็บ ตัดต้นไม้ ถอนเสาเรือน หรือทำการโยกย้ายสิ่งของใดๆที่สำคัญ ) ที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อของคนรุ่น ปู่ ย่า ตา ยายแต่ทุกวันนี้ดูเหมือนว่าความเชื่อเช่นนี้จะยังอยู่คู่สังคมไทย ขนานกับ ความเชื่อใหม่ๆที่เกิดขึ้นในโลกยุคไซเบอร์ดิจิตอลไร้พรมแดนสมัยนี้

เป็นที่รับรู้กันดีว่าเรื่องความเชื่อเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ ในครั้งที่คนเรายังไม่มีศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ โดยผู้คนในยุคสมัยนั้นต่างมีความเชื่อที่ผูกติดอยู่กับธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นสำคัญ บ้างก็เชื่อว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์คือผู้ให้ชีวิตที่ดีแก่ชาวโลก

และเพื่อให้การดำเนินชีวิตปลอดภัยจากภยันตรายทางธรรมชาติทั้งปวง รวมถึงการระลึกถึงบุญคุณที่ธรรมชาติบันดลบันดาลสิ่งดีๆให้กับชีวิตผู้คนในโลก ความเชื่อโดยผ่านพิธีกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้คนจึงเกิดขึ้นโดยกระบวนการคิดของคนในสมัยนั้นๆ

ไม่ว่าจะเป็นการบูชาพระอาทิตย์ พระจันทร์ แม่น้ำ แผ่นดิน หรือแม้แต่ลม จนสมัยต่อมาผู้คนจึงได้มีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นหลักในการดำเนินชีวิต สอนให้คนทำในสิ่งที่ดีงามจึงจะได้รับผลจากการกระทำนั้นๆ

ปัจจุบันถึงแม้ว่าโลกจะแปรเปลี่ยนไปจากอดีตชนิดไม่เห็นหลังก็ตาม ด้วยกาลเวลาที่ได้ปรับเปลี่ยนพัฒนาผู้คนจากสังคมเกษตรแบบพึ่งพาตนเองและช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็กลายเป็นสังคมอุตสาหกรรมจึงทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเริ่มมีการแข่งขันและเอารัดเอาเปรียบกันและกัน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการและอยู่เหนือผู้อื่น ความเชื่อเดิมๆจึงถูกปรับเปลี่ยนไปตามกระแสด้วยเช่นกัน จากที่เชื่อในวิถีแบบธรรมชาติที่สงบก็เปลี่ยนเป็นความเชื่อในวัตถุ แข่งขันกันแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และนับถือ?เงินคือพระเจ้า?

หลังจากนั้นการดำเนินชีวิตของผู้คนบนโลกใบนี้ก็ใช่ว่าจะหยุดนิ่งเพียงเท่านั้น แต่กลับพัฒนาไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น มีการประดิษฐ์คิดค้นให้เกิดสิ่งแปลกใหม่ต่างๆที่จะสนับสนุนให้ผู้คนมีชีวิตที่สะดวกและสบายกว่าที่เคยเป็นในโลกของข้อมูลข่าวสารไซเบอร์ดิจิตอลที่ไร้พรมแดน

ความเชื่อเรื่อง ผีสางนางไม้ เป็นหนึ่งในความเชื่อที่มีมานานแล้วในสังคมโลกถึงแม้ว่าโลกจะพัฒนาไปมากน้อยเพียงไรแต่ความเชื่อเรื่องผีก็ยังเป็นความเชื่อที่อมตะ นิรันดร์ ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติเผ่าพันธุ์ในแต่ละรุ่นแต่ละสมัยจะยังคงกล่าวขานและเชื่อว่าผีมีจริง ผีหรอกคนได้ จนมักจะมีความเห็นและคำพูดที่ติดปากกันเสมอๆว่า ?ผีหลอก ผีดุ ผีสิง ผีเข้า?

ผีเป็นวิญญาณหลังความตายแล้ว ซึ่งมีทั้งผีดี และผีร้าย โดยในส่วนผีดีนั้นจะหมายถึงผีบ้านผีเรือนที่คอยปกปักษ์รักษาผู้คนในครอบครัวและชุมชนให้อยู่ดีมีสุข ส่วนผีร้ายก็มักจะเข้าใจได้ว่าหมายถึงผีที่เป็นวิญญาณเร่ร่อนพเนจรไปตามที่ต่าง ๆ ตายแล้วไม่ได้ไปผุดเกิด ซึ่งอาจทำร้ายผู้คนให้เกิดความเจ็บป่วยได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไปล่วงเกินโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจก็ได้

แต่ในสถานการณ์โลกปัจจุบันนอกจากผีดีและผีร้ายที่กล่าวมายังมี ?ผีพนัน?เกิดขึ้นในสมัยนี้ด้วย ซึ่งผีประเภทนี้จะเข้า สิงร่างของคนที่อ่อนแอไม่มีภูมิคุ้มกันและขาดรากฐานในการดำเนินชีวิต โดยท้ายที่สุดก็จะทำลายคนๆนั้นให้ได้รับซึ่งความทุกข์ที่แสนสาหัสจนถึงขั้นหายนะกับชีวิตกลายเป็นอาชญากรที่ต้องไปใช้ชีวิตในคุกตารางก็มีให้พบเห็นกันบ่อยๆ

ที่มา
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=1578.0
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว....ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา...สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา...กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ออฟไลน์ ทรงกลด

  • ผู้อาวุโส
  • *****
  • กระทู้: 2199
  • เพศ: ชาย
  • ศิษย์หลวงโด่ง.....
    • ดูรายละเอียด
ผีสาง ขมังเวทย์ ทำสวย รวยทางลัด ความเชื่อที่สังคมต้องทบทวน (2/2)


ทุกวันนี้ปัญหาอันเนื่องมาจากความรักมีให้เห็นมากมายในบ้านเมือง บางคนที่ไม่สมหวัง ในรักหากตัวเองจิตใจอ่อนแอไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็มักจะหาทางออกง่ายๆ ด้วยการทำร้ายตัวเอง หรือกับบางคนที่ไม่ได้ถูกขัดเกลานิสัยมาตั้งแต่เด็กเมื่อไม่สมหวังในความรัก ก็มักหาวิธีทำร้ายคนที่ตนรักให้ถึงกับชีวิตก็มีให้รับรู้มากมายในสังคม

แต่สำหรับใครบางคนที่ต้องการแย่งชิงรักหักสวาทผู้อื่นมาเป็นของตน ก็มักเชื่อว่า วิชาขมังเวทย์หรือไสยศาสตร์ จะเป็นทางออกที่ช่วยให้ตนเองสมหวังในความต้องการได้ ความเชื่อที่กล่าวมาคงเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนับสนุนให้ถือปฏิบัติกันในสังคม เพราะนอกจากจะเป็นความเสี่ยงที่อาจจะเกิดความเสียหายกับตนเองแล้วยังเป็นความเชื่อที่งมงายไม่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนสมัยนี้ด้วย

และเป็นที่ยอมรับกันว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นจากสติปัญญาของคนได้ช่วยให้คนมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าสมัยก่อนๆที่ผ่านมามาก หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในยุคนี้หากย้อนกลับไปยังอดีตคงเป็นความมหัศจรรย์ใจยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คนเราสามารถเดินทางออกไปนอกโลกขึ้นไปยืนเหยียบบนพื้นผิวของดวงจันทร์ หรือกับรถไฟที่ใช้เป็นพาหนะเดินทางของผู้คนปัจจุบันก็วิ่งด้วยความเร็วสูงไม่ต่างอะไรกับเครื่องบินแม้แต่น้อยก็เป็นไปได้ในสมัยนี้

สำหรับ การทำสวย เสริมแต่งให้รูปลักษณ์ภายนอกของคนดูงดงาม ก็สามารถแต่งเติมเพิ่มความงามได้มากกว่าที่ธรรมชาติให้มาและยังสามารถทำตามใจที่คนปรารถนาจะเป็น เช่น การแปลงเพศ การเสริมเติมแต่งหน้าตา รวมถึงหน้าอกหน้าใจ ซึ่งคนส่วนมากที่ทำกันเพราะเชื่อว่าความสวย สามารถบันดาลสิ่งที่ตนปรารถนาได้ โดยลืมไปว่าที่จริงแล้วจิตใจที่งดงามต่างหากที่เป็นความจิรังยั่งยืนของคน

คนเราเกิดมาในโลกนี้มีทั้งยากดีมีจนคละเคล้ากันไป บางคนโชคดีมีฐานะร่ำรวยมีชีวิตที่สุขสบาย และกับบางคนที่เกิดมามีฐานะยากจนดำรงชีวิตด้วยความยากลำบากแสนเข็ญต้องต่อสู้ดิ้นรนชนิดปากกัดตีนถีบ แต่ทั้งคนที่ร่ำรวยและยากจนต่างก็มีโอกาสที่จะพบกับความสุขและความทุกข์ที่ตนเองเป็นผู้เลือก และหาทางออกให้กับชีวิตที่ไม่ต่างกัน

บ่อยครั้งจะพบว่าทั้งคนจนและคนรวยมีความโลภอยากรวยทางลัดจึงค้ายาเสพติด เลือกเดินในถนนสายเดียวกันทำให้ต้องได้รับโทษทัณฑ์ เข้าไปใช้ชีวิตในคุกก็มี หรือกับบางคนมีชีวิตที่ผูกพันกับการพนัน เล่นม้า แทงหวย และพนันบอล ก็มักจะเชื่อในโชคลางจนขาดความเป็นตัวของตัวเอง ท้ายที่สุดก็ต้องตกอยู่ในวงจรของความโลภ ความหลง จนทำลายความสุขในชีวิตต้องจมปลักอยู่ความมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสิ้นเนื้อประดาตัว

หลักธรรมของทุกศาสนาล้วนสอนให้ผู้คนยึดมั่นในการกระทำความดีไม่เบียดเบียนกันและกัน สอนให้เชื่ออย่างมีเหตุผลไม่งมงาย โดยมีหลักคิดว่าหากทำดีย่อมได้รับผลตอบแทนที่ดี ในทางกลับกันหากทำชั่วก็ได้รับในสิ่งที่กระทำเช่นกัน

ที่มา
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=1578.0