...เมื่อจิตระลึกถึงธรรม บทที่ ๔...
...ที่ผ่านมานั้นเดินทางขึ้นเหนือ
ล่องใต้ไปอีสานอยู่ตลอด ทั้งที่
เป็นเรื่องงานทางพระพุทธศาสนา
และงานด้านจิตอาสาเพื่อสังคม
ทุกสิ่งอย่างที่ได้กระทำไปนั้น
เป็นการฝึกฝนให้แก่คนรุ่นใหม่
เป็นการสร้างพื้นฐานด้านความคิด
เป็นการสร้างจิตสำนึกต่อส่วนรวม
รู้จักการเสียสละประโยชน์ส่วนตน
เพื่อคนอื่น รู้จักการใช้ชีวิตและการ
ทำงานรวมหมู่กับคนหมู่มาก
...มันคือการสอนธรรมแด่ผู้ร่วม
กิจกรรม สอนประสบการณ์ชีวิต
คือการเปิดซึ่งโลกทัศน์และชีวทัศน์
เป็นการสั่งสมซึ่งประสบการณ์ชีวิต
ซึ่งต้องก้าวเดินไปพร้อมกัน ทั้งทาง
โลกและทางธรรม...
๐ เบื่อเบื่อ อยากอยาก หลายครั้ง
ครั้งยัง ฝึกฝน ใหม่ใหม่
หลบหลีก อยู่ตาม พงไพร
หวั่นไหว ต่อโลก มายา
๐ ไม่ว่า จะอยู่ ที่ไหน
ไม่ไร้ วุ่นวาย ปัญหา
เพราะต้อง พบปะ พึ่งพา
ศรัทธา หาเลี้ยง ชีพตน
๐ มีคน ก็มี ปัญหา
เพราะว่า หลบหลีก ไม่พ้น
จึงต้อง ฝึกความ อดทน
ฝึกจน ให้เกิด ชำนาญ
๐ ตามดู ตามรู้ ตามเห็น
ให้เป็น อารมณ์ กรรมฐาน
รู้กาย รู้จิต เหตุการณ์
คิดอ่าน อารมณ์ ปัจจุบัน
๐ รู้ตัว รู้ทั่ว รู้พร้อม
นำน้อม ความคิด สร้างสรรค์
ตามดู รู้จิต ให้ทัน
สิ่งนั้น วิปัส-สนา
๐ ถอนจิต จากความ สงบ
เมื่อพบ กับตัว ปัญหา
แก้ไข โดยใช้ ปัญญา
มองหา ให้เห็น เป็นจริง
๐ มองหา ให้เห็น คุณโทษ
ประโยชน์ หรือไม่ ในสิ่ง
รู้เห็น ตามความ เป็นจริง
จิตนิ่ง ก็มอง เห็นธรรม
๐ เห็นการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่
และรู้ การดับ ลึกล้ำ
ชั่วดี ก่อเกิด บุญกรรม
น้อมนำ สู่จิต คิดตาม
๐ เคลื่อนไหว แต่ไม่ หวั่นไหว
ถ้าใจ มั่นใน ข้อห้าม
เฝ้าดู จิตอยู่ ทุกยาม
เดินตาม ธรรมะ ชี้นำ
...เคลื่อนไหว วุ่นวาย สับสน
เหตุผล ปัญหา ตอกย้ำ
มนุษย์ เป็นไป ตามกรรม
ใครทำ ต้องรับ กรรมไป....
...ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต...
...รวี สัจจะ - สมณะไร้นาม...
...๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓...
...เวลา ๑๘:๓๒ น. ...