ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด 31 มีนาคม พ.ศ. 2551
ต้องมีพิธี ล้างอาคม ศพจึงไหม้ คนตะลึง
ศพไม่ไหม้- ศิษย์แห่ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัด วัดศรีดอนมูล จ.เชียงใหม่ พบมหัศจรรย์ศพไม่ไหม้ชาวบ้านเชื่อเพราะอิทธิฤทธิ์ตะกรุดกาสะท้อน ครูบาน้อยศิษย์เอกต้องทำพิธีล้างอาคม ศพจึงไหม้จนหมด
ศิษยานุศิษย์กว่าครึ่งแสนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ"ครูบาผัด" เกจิอาจารย์ล้านนา ต้นตำรับตะกรุดกาสะท้อน ฮือฮารอบๆวัดฝนตกหนักแต่บริเวณพิธีลมพัดเย็นสบายไม่มีฝนแม้แต่เม็ดเดียว ขณะที่ช่วงเผาศพทั้งปราสาทและโลงต่างไหม้ไฟหมด ทว่าสังขารครูบาผัดกลับไม่ไหม้ไฟ "ครูบาน้อย"ศิษย์เอกต้องนั่งอธิษฐานจิตล้างอาคมพระอาจารย์ จากนั้นไฟจึงเผาสรีระครูบาผัดจนหมดเป็นที่อัศจรรย์แก่ลูกศิษย์จนต้องก้มกราบ พร้อมกับเปล่ง"สาธุ"ดังกระหึ่ม
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 30 มี.ค.ที่เมรุชั่วคราวบริเวณลานอเนกประสงค์เจดีย์ 9 คณาจารย์ วัดศรีดอนมูล ต.ชมภู อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพพระครูพิศิษฏ์สังฆการ หรือครูบาผัด ผุสฺสิตธมฺโม เกจิอาจารย์ชื่อดังล้านนา เจ้าตำรับตะกรุดกาสะท้อน โดยมีนายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ประธานฝ่ายฆราวาส เป็นผู้อัญเชิญผ้าไตรพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จำนวน 5 ผืน และอัญเชิญไฟหลวงพระราชทานเข้าประกอบพิธี ฝ่ายสงฆ์มีพระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัดครั้งนี้มีประชาชนและศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศมาร่วมพิธีกว่าครึ่งแสนคน ทำให้บริเวณเมรุชั่วคราวพื้นที่กว่า 30 ไร่แคบลงไปถนัดตา โดยช่วงทำพิธีเพื่ออัญเชิญผ้าไตรพระราชทานและไฟหลวงพระราชทานนั้น เกิดลมพายุพัดตลอดเวลา ขณะเดียวกันรอบๆ วัดศรีดอนมูลเกิดพายุและฝนตกอย่างหนัก แต่บริเวณพิธีพระราชทานเพลิงศพครูบาผัดกลับไม่มีฝนมีแต่ลมพัดสร้างความเย็นสบายแก่ผู้มาร่วมพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง ทุกคนต่างยกมือท่วมหัวสาธุ เพราะเชื่อว่าเป็นบุญญาบารมีของครูผาผัด
หลังเสร็จพิธีอัญเชิญผ้าไตรพระราชทานและไฟหลวงพระราชทานแล้ว พระสงฆ์ ประชาชนและศิษยานุศิษย์ร่วมกันวางดอกไม้จันทน์ จากนั้นพระราชทานเพลิงโดยใช้พลุและดอกไม้ไฟนานาชนิดตามประเพณีแบบโบราณเพื่อเผาทั้งปราสาทนกหัสดีลิงค์ โดยมีรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลชมภู คอยดูแลไม่ให้เพลิงลุกลามจำนวน 5 คัน
ทั้งนี้ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และลามไหม้โลงศพแก้วบรรจุสังขารครูบาผัดจนเป็นจุณไปในพริบตา ปรากฏว่าสรีระของครูบาผัดที่นอนสงบอยู่ในโลงแก้วกลับไม่ไหม้ไฟทั้งที่เปลวเพลิงลุกโหมรุนแรงตลอดเวลา ประชาชนและศิษยานุศิษย์ที่เฝ้าดูต่างฮือฮาและพากันก้มลงกราบพร้อมกับเปล่งคำว่า "สาธุ" ดังกระหึ่ม กระทั่งไฟได้ไหม้ปราสาทนกหัสดีลิงค์และโลง ศพจนหมดแล้วแต่กลับเหลือสรีระของครูบาผัดนอนทอดยาวบนกองเพลิงไม่ได้ไหม้ไฟไปด้วย
จากนั้นคณะกรรมการวัดและศิษยานุศิษย์จึงร้องขอให้พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชปัญโญ ศิษย์เอกครูบาผัด นั่งอธิษฐานจิตเพื่อล้างอาคมในตัวครูบาผัดให้หมดสิ้นไปเพื่อไฟพระราชทานจะได้ไหม้ส่งดวงวิญญาณไปสู่สัมปรายภพ เมื่อครูบาน้อยนั่งจิตอธิษฐานเพลิงก็ค่อยๆไหม้สรีระครูบาผัดไปเรื่อยๆ จนหมดเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่ผู้อยู่ร่วมงานหลายหมื่นคน
นายภัทร กองคำ คณะกรรมการวัดศรีดอนมูล เปิดเผยว่า สาเหตุที่สรีระของครูบาผัดไม่ไหม้ไฟนั้น น่าเชื่อว่าเป็นเพราะวิชาอาคมในตัวของครูบาผัดยังล้างออกไปไม่หมด ตอนที่ครูบาผัดมรณภาพทางครูบาน้อย ศิษย์เอกก็ได้นำน้ำสมป่อยล้างวิชาอาคมออกจากตัวครูบาผัดแล้วครั้งหนึ่ง คาดว่ายังคงมีวิชาอาคมบางส่วนยังล้างไม่ออก โดยเฉพาะวิชาตะกรุดกาสะท้อนที่แรงกล้าติดตัวท่าน