องค์นี้ผู้ใหญ่ที่ชอบมาสนทนาพระเครื่องกับคุณพ่อผม ให้มาครับ เค้าว่า ของหลวงปู่ใจวัดเสด็จ
แกะจากคอมาให้เลยครับ เขาเลี่ยมสามห่วงใช้อยู่ครับ ผมว่า สวยดีนะครับ ... แถมให้อีกนิสกับประวัติหลวงปู่ใจ
สำหรับประวัติหลวงปู่ใจ ผู้สร้างเหรียญอริยสัจ รุ่นแรกขึ้นมานั้น ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 2 ค่ำ เดือนอ้าย ปีจอ ตรงกับวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2405 ณ บ้านตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
มีชื่อเดิมว่า ใจ ขำสมชัย
บิดาชื่อ นายขำ ขำสมชัย มารดาชื่อ นางหุ่น ขำสมชัย
หลวงปู่ใจมีพี่น้องด้วยกันถึง 11 คน โดยเป็นหญิง 6 ชาย 5
ต่อมาครอบครัวของท่านได้ย้ายมายังหมู่ที่ 9 ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อันเป็นภูมิลำเนาเดิมของปู่ และบิดา
จึงเมื่ออายุได้ 21 ปีบริบูรณ์ ก็ได้อุปสมบท ณ อุโบสถวัดบางเกาะเทพศักดิ์ เมื่อวันแรม 11 ค่ำ เดือน 7 ปีมะแม โดยมีพระอุปัชฌาย์จุ้ย วัดบางเกาะเทพศักดิ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "อินฺทสุวณฺโณ"
พระราชมงคลวุฒาจารย์ (ใจ อินฺทสุวณฺโณ) หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษายังวัดบางเกาะเทพศักดิ์ เพื่อศึกษาทั้งด้านวินัยและด้านพระปริยัติ จนมีความรู้แตกฉาน ทั้งอักษรไทยและขอม
สำหรับการเรียนหนังสือขอม เป็นที่สำคัญยิ่งสำหรับพระภิกษุสงฆ์ ด้วยพระไตรปิฎกนั้น แต่เดิมเขียนด้วยอักษรขอม เพิ่งจะเขียนด้วยอักษรไทยในสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส นี่เอง
นอกเหนือไปจากการศึกษาด้านพระวินัย พระปริยัติแล้วนั้น หลวงปู่ใจยังให้ความสนใจในเรื่องของคาถาอาคม และได้ขอเล่าเรียนจากครูบาอาจารย์หลายท่าน ต่อเมื่อท่านออกเดินธุดงค์เพื่อฝึกจิตสมาธิในพงไพรกว้าง ตอนใดที่พบพานพระธุดงค์ด้วยกัน ท่านมักขอศึกษาวิชาด้วย กล่าวว่าท่านมีโอกาสได้เรียนรู้วิชาทางสมาธิจากพระอุปัชฌาย์ยิ้ม วัดหนองบัว จากในป่านั้นเอง ในคราที่ท่านเดินธุดงค์ไปพบกับหลวงปู่ยิ้ม
ต่อมาได้มีนางอิ่มและนายอ่อน ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของหลวงปู่ใจ ได้ยกที่ดิน 3 ไร่ 3 งาน 91 ตารางวา ถวายให้พระสมุห์แพ วัดใหม่ยายเงิน (วัดราษฎร์บูรณะ) ฐานานุกรมของพระครูวิมลเกียรติ (เกลี้ยง) วัดบางสะแก แต่ด้วยพระสมุห์แพ อาพาธลงเสียก่อน จึงได้มอบโฉนดที่ดินให้แก่ขุนศรีโยธามาตย์ภักดี (บุตร) กับหมื่นชำนาญ (โพน) เพื่อนำไปมอบให้แก่เจ้าอาวาสวัดใดวัดหนึ่ง เพื่อดำเนินการสร้างวัดขึ้นตามเจตนาของผู้บริจาค
ซึ่งที่ดินเหล่านี้ ได้นำมามอบให้กับพระอุปัชฌาย์จุ้ย วัดบางเกาะ และได้ดำเนินการสร้างเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2434 ด้วยเงินสมทบบริจาคจำนวน 260 บาท พร้อมทั้งแต่งตั้งให้หลวงปู่ใจ ซึ่งอุปสมบทมาได้ 8 พรรษาแล้ว เป็นผู้ปกครองสำนักสงฆ์แห่งนี้ มีพระภิกษุจำพรรษาด้วย 4 รูป
วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2434 ตรงกับวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8 ปีเถาะ ท่านพระครูวิมลเกียรติ (ป้าน) เจ้าอาวาสวัดเหมืองใหม่ เจ้าคณะแขวงเมืองราชบุรี ได้แต่งตั้งให้พระใจ เป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระอธิการปกครองวัด มีชื่อวัดว่า วัดใหม่ยายอิ่ม ตามนามผู้ถวายที่ดิน
เมื่อได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตเป็นวิสุงคามสีมาแล้ว จึงให้ชื่อวัดใหม่ว่า "วัดใหม่ใต้ปากคลองดอน" ครั้นเมื่อปี พ.ศ.2458 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จมาตรวจการณ์คณะสงฆ์ และได้เสด็จมายังวัดใหม่ใต้ปากคลองดอน ได้ทรงตั้งนามวัดใหม่ว่า "วัดเสด็จ"
อีกบทความหนึ่งครับ..............................
ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเคารพนับถือท่านมากมาย ท่านได้เคยสร้างพระไว้หลายอย่าง ทั้งเหรียญและพระหล่อเนื้อเมฆพัด พระปรกใบมะขามเนื้อเมฆพัดของท่านจัดเข้าอยู่ในชุดพระเบญจฯปรกใบมะขาม ซึ่งโด่งดังมาก // นอกจากพระเครื่องแล้วท่านยังได้สร้างตะกรุดไว้หลายแบบ ที่โดดเด่นมากก็คือตะกรุดลูกอม ที่มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนาค ซึ่งท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี // หลวงปู่ใจท่านเกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2405 // หลวงปู่ใจท่านได้รับสมณศักดิ์ดังต่อไปนี้ =>> พ.ศ. 2458 เป็นผู้รั้งเจ้าคณะแขวงบางคนที // พ.ศ. 2460 เป็นเจ้าคณะแขวงบางคนที และได้รับพระราชทานสัญญาบัตรมีพระราชทินนามว่า "พระครูสุทธิสาร" // พ.ศ. 2469 เป็นเจ้าคณะแขวงอัมพวา พ.ศ. 2495 เป็นพระสุทธิสารวุฒาจารย์ // พ.ศ. 2504 เป็นพระราชมงคลวุฒาจารย์ หลวงปู่ใจท่านมรณภาพวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2505 สิริอายุได้ 100 ปี พรรษาที่ 78 // ในสมัยที่หลวงปู่ใจท่านกำลังสร้างวัดเสด็จอยู่นั้นท่านได้เดินทางไปที่จังหวัดกาญจนบุรีอยู่บ่อยๆ เพื่อไปหาซื้อไม้มาสร้างวัด ท่านขึ้นล่องอยู่หลายปีจึงสร้างวัดได้สำเร็จ // และทุกปีท่านจะมาแวะพักที่วัดหนองบัว เอาหมากพลูมาถวายหลวงปู่ยิ้ม ซึ่งท่านเคารพหลวงปู่ยิ้มมาก มีอยู่ปีหนึ่งหลวงปู่ยิ้มพูดเปิดทางให้กับท่านว่าถ้าสนใจในวิทยาคมก็จะถ่ายทอดให้ // ท่านจึงรีบขอเป็นศิษย์ทันที หลวงปู่ยิ้มได้มอบบทเรียนบทแรกว่าด้วยการทดสอบพลังจิต โดยจุดเทียนตั้งไว้ที่ขัดน้ำมนต์ แล้วให้ท่านเพ่งกระแสจิตไปที่เทียนให้เทียนขาดกลางให้ได้ // ถ้าทำได้เมื่อใดจึงจะมอบวิชาให้ หลวงปู่ใจท่านทำอยู่ 7 คืน เทียนก็ไม่ยอมขาด หลังจากกลับมาพัก ท่านจึงตัดสินใจว่าถ้าหากคืนพรุ่งนี้เทียนยังไม่ขาด ก็จะกลับอัมพวา ปรากฏว่าคืนวันที่ 8 ท่านทำได้สำเร็จ // ท่านสามารถเพ่งกระแสจิตตัดเทียนให้ค่อยๆ ละลายขาดลงตรงกลาง หลวงปู่ยิ้มได้กล่าวชมว่า "เมื่อแรกเรียนท่านก็เก่งกว่าเสียแล้ว" เพราะหลวงปู่ยิ้มเองต้องทำอยู่ถึง 15 วัน // หลวงปู่ยิ้มจึงถ่ายทอดวิชาว่าด้วยการสร้างตะกรุดปราบทาษามหาระงับ ตะกรุดลูกอมอันเลื่องลือของท่านให้แก่หลวงปู่ใจจนหมดสิ้น // ตะกรุดของหลวงปู่ใจท่านจะสร้างด้วยความพิถีพิถันใช้ความประณีตบรรจง ตะกรุดแต่ละดอกจะมีขนาดเท่ากัน ลักษณะการม้วนจะเหมือนกัน การขวั้นไหม 5 สี ร้อยตะกรุดลูกอม ก็ต้องใช้ไหมที่มีขนาดเท่ากันทุกเส้นเวลาขวั้นต้องจัดเกลียวให้เป็นระเบียบ และท่านจะปลุกเสกของๆ ท่านเพียงองค์เดียวเท่านั้น ตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจจะมีอยู่ 3 เนื้อคือ เนื้อทองคำ เนื้อนาค และเนื้อเงิน ปัจจุบันตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจนั้นหายาก ทุกคนที่มีต่างหวงแหนครับ /