พระไพรีพินาศ เป็นพระพุทธรูปศิลาปิดทอง ศิลปะศรีวิชัย ปางประทานพร (คล้ายปางมารวิชัย เพียงแต่หงายพระหัตถ์ขวา) ประวัติการ สร้างไม่ปรากฏแน่ชัด ทราบแต่เพียงว่ามีผู้นำมาทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ตั้งแต่ครั้งทรงผนวช ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และพระองค์ทรงเชื่อว่า
พระพุทธรูปองค์นี้มีอานุภาพกำจัดภัย ให้ผู้ที่คิดร้ายพ่ายแพ้พระบารมีเรื่อง มีอยู่ว่า เมื่อรัชกาลที่ ๒ สวรรคตใหม่ ๆ นั้น รัชกาลที่ ๔ ยังทรงอยู่ในสมณเพศและพระองค์มีความชอบธรรมที่จะเสด็จเสวยราชสมบัติต่อ แต่กลับถูกคุกคามจากพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายที่สนับสนุนกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ (ต่อมาคือรัชกาลที่ ๓) โดยเฉพาะจากกรมหลวงรักษ์รณเรศ (พระองค์เจ้าไกรสร) ลวงให้เสด็จเข้าไปในพระบรมมหาราชวัง และถูกควบคุมตัวเอาไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นเวลาหลายวัน จนกระทั่งเมื่อกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าแผ่น ดินแล้ว พระองค์จึงได้รับการปล่อยให้เสด็จกลับไปประทับที่วัดสมอรายดังเดิม แม้รัชกาลที่ ๔ จะไม่ได้เสวยราชย์และดำรงอยู่ในเพศบรรพชิต ก็ยังถูกกรมหลวงรักษ์รณเรศหรือพระองค์เจ้าไกรสรคุกคามกลั่นแกล้งอยู่ตลอด เวลา
ในปลายแผ่นดินรัชกาลที่ ๓ กรมหลวงรักษ์รณเรศต้องราชภัย เพราะความกำเริบเสิบสานและสำเร็จความใคร่บ่าวจนน้ำกามเคลื่อน จึงถูกถอดเป็นไพร่เรียกว่าหม่อมไกรสร แล้วประหารชีวิตโดยทุบด้วยท่อนจันทน์
ผู้ทำหน้าที่ประหารเคยเป็นข้าในกรมของผู้ถูกประหาร จึงมือไม้สั่น ปรกติทุบทีเดียวก็ตายสนิท แต่นี่เจ้านายตัวจึงทุบพลาด เจ้านายก็เด็ดขาด ตะโกนสั่งจากถุงที่คลุมว่า "ทุบใหม่ ไอ้นี่สอนไม่จำ.."ข้อความในพระราชพงศาวดารกล่าวถึงกรมหลวงรักษ์รณเรศว่า “...
มักใหญ่ใฝ่สูงจะเป็นวังหน้าบ้าง เป็นพระเจ้าแผ่นดินบ้าง อย่าว่าแต่มนุษย์เขาจะยอมให้เป็นเลย แต่สัตว์เดียรฉานมันก็ไม่ยอมให้ตัวเป็นพระเจ้าแผ่นดิน จึงโปรดให้ถอดเสียจากกรมหลวง ให้เรียกว่าหม่อมไกรสร ลงพระราชอาญาแล้ว ให้ไปสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคา เมื่อวันพุธ เดือนอ้าย แรมสามค่ำ (ตรงกับวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๙๑)” ด้วยเหตุนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงเฉลิมพระนามพระพุทธรูปนี้ว่า
พระไพรีพินาศ โปรดให้สร้างเก๋งประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ที่พระเจดีย์วัดบวรนิเวศวิหาร
ขอบคุณที่มา http://www.oknation.net/blog/panyadeesiri/2007/04/05/entry-1