:059:ในยามที่มนุษย์เจออุปสรรค ปัญหาและเหตุการณ์ในสภาวะที่มีความยากลำบาก เขาย่อมแสดงธาตุ
แท้ของเขาออกมาให้ปรากฎ เช่นเดียวกับการปฏิบัติธรรม เราจะรู้ได้ว่าภูมิธรรมภูมิปัญญาของเราเป็นเช่นไร
พิสูจน์ได้เมื่อเจออุปสรรคปัญหา คือต้องพบของจริงเสียก่อน ไม่ใช่การนึกคิดสมมุติเหตุการณ์ขึ้นมา ว่ามัน
เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ ต้องใช้ปัจจุบันธรรมเป็นตัวตัดสินเป็นตัวพิสูจน์ ว่าเราจะแก้ไขหรือทำความเข้าใจ
กับปัญหาได้หรือไม่ นั้นคือคำตอบของการปฏิบัติธรรม
:016:เมื่อเราเปิดกาย เปิดใจของเราให้กว้าง เราจะเห็นตัวเราชัดเจนขึ้น การเปิดกายเปิดใจคือการทำให้อัตตาอุปาทานเบาบางลง ตัวกูและของกูมันปิดบังความเป็นจริงอยู่ ทำให้เราไม่สามารถที่จะเห็นความผิดพลาด ความประมาทของตัวเรา เพราะเราจะคิดเข้าข้างตัวเราเองเสมอ ยึดถือความคิดและการกระทำของตัวเองเป็นหลักเกณฑ์ในการสรุปและพิจารณา ว่าสิ่งที่พบที่เห็นเป็นอย่างไร เราจะเอาใจเอาความรู้สึกของเรา
มาสรุปสิ่งเหล่านั้น เพื่อสนองและรองรับความคิดเห็นของเรา ซึ่งบางครั้งมันดีสำหรับเรา แต่ไม่เข้ากับหลักธรรม เพราะมันคือความนึกคิดของจิตเราเอง ไม่ใช่สภาวะธรรมที่แท้จริง
:054:ธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นเหตุเป็นปัจจัย สงเคราะห์อนุเคราะห์ซึ่งกันและกัน ธรรมจะไม่ขัดแย้งกัน ส่วนที่ทำให้ขัดแย้งกันนั้น เพราะเราเข้าไปยึดถือในความคิดของเรา ไม่ยอมปรับความคิดของตัวเราเข้าไปหาหลักธรรม แต่เราพยายามปรับหลักธรรมเข้ามารองรับความคิดเห็นของเรา การอธิบายและความหมายของหลักธรรมจึงคลาดเคลื่อนไป ทำให้เกิดความขัดแย้งกันในความหมายของหลักธรรม
:059:ฉะนั้นเมื่อมีความคิดเห็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จงหันมาพิจารณาที่ตัวเราเสียก่อน อย่าด่วนสรุปว่าของเขานั้นผิด ใช้ความคิดพิจารณว่าทำไมจึงมีความคิดเห็นเป็นอย่างนั้น ทั้งความคิดเห็นของเราและของเขา ว่ามันมีเหตุและปัจจัยมาจากอะไร เมื่อเราได้คำตอบแล้ว เราจะเข้าใจในความคิดของเราและของเขา
แล้วจึงมาหาข้อสรุปที่เหมาะสมที่พอดีสำหรับทุกฝ่าย มันจึงจะได้ความลงตัวที่ไปด้วยกันได้
:054:ขอฝากไว้เป็นข้อคิดสะกิดเตือนใจในการพิจารณาธรรมแด่ท่านทั้งหลาย
เชื่อมั่น-ศรัทธา-ปรารถนาดี-ไมตรีจิตแด่มิตรสหาย
รวี สัจจะ
วจีพเนจร-คนรอนแรม
๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๐.๕๗ น. ณ ริมฝั่งโขง ประเทศไทย ตรงข้ามประเทศลาว