เรื่องคุณปลัดนี่ ผมเคยได้ยินหลวงปู่เจ้าอาวาสเล่าให้ฟังสมัยตอนบวชเณรวัดป่าธรรมยุตครับ
หลวงปู่เจ้าอาวาส ท่านเล่าให้ฟังว่า "สมัยก่อนยังพอแข็งแรง ท่านธุดงค์ไปทางอีสานใต้ติดๆกับชายแดนเขมร ไปเจอผู้ชายคนหนึ่งสักยันต์เต็มตัว เสื้อผ้าขาดไม่มีชิ้นดีนอนอยู่กลางป่า หมดสติไป ในใจท่านคิดว่า เจอดีเข้าแล้วสิเรา ท่านกำหนดจิต จึงได้รู้ว่าชายคนนี้เป็นคนนี่แหละ ไม่ใช่อมนุษย์อย่างที่คิด
ท่านกับชีปะขาว(คนนุ่งห่มสีขาว)ช่วยกันพยุงชายคนนั้น รอให้ฟื้น แล้วท่านก็ให้ข้าวตู น้ำ ชายคนนั้นอาการดีขึ้นก็ก็เล่าให้ฟังว่า ผมได้ประลองวิชากับหมอเขมรที่เรียนพระเวทย์มาจากเขมร แต่เกิดพลั้งพลาด เลยโดนวัวธนูขวิด เสื้อผ้าขาดหวิ่น ไม่เป็นชิ้นดี รอยสักขนาดล้อมอักขระก็ยังโดนมันถอนออกจนหมด (หลวงปู่ท่านว่าถ้าเค้าวิชาแก่กว่าอาจารย์เรา เค้าสามารถถอนของได้หมด) มันพยายามจะฆ่า แต่มันฆ่าไม่ได้ มันเลยเอามาทิ้งกลางป่า หวังให้อดตาย ที่รอดมาได้เพราะแขวนปลัดขิกซ่อนเอาไว้ที่ลับ
ชายคนนั้นเล่าให้หลวงปู่ฟังว่า "เมื่อหลายสิบปีก่อน เจอพระธุดงค์รูปหนึ่งชราภาพมากแล้ว มีข้อวัตรที่น่าเลื่อมใส เช้าวันต่อมาเลยทำอาหาร ไปถวายท่าน รอจนท่านฉันเสร็จ ท่านก็บอกว่าหลวงพ่อไม่มีอะไรจะให้ โยมช่วยไปหาไม้ชองละอามาให้หลวงพ่อได้หรือเปล่า(ผมไม่รู้จักเหมือนกันครับ) พอชายคนนั้นมอบไม้ชองละอาให้พระธุดงค์แล้ว ท่านบอกว่าพรุ่งนี้ให้กลับมารับมันไปด้วย พออีกวันชายคนนี้ไป พระธุงค์ก็ส่งปลัดขิกอันเล็กๆให้ แล้วบอกว่าขอว่าให้โยมพกติดตัวไว้ในที่ลับ อย่าให้ใครเห็น ยามคับขันจะช่วยโยมให้พ้นภัยได้ ชายคนนั้นก็พกปลัดขิกจากวันนั้นตลอดมา
ถ้าชายคนนั้นไม่มีปลัดขิกของพระธุดงค์ก็คงแย่เช่นกันครับ ปลัดขิกคือไม้ตายสุดท้ายของผู้ที่เรียนวิชา แขวนในที่ลับไม่มีใครเห็น เลยไม่มีใครถอนวิชาได้ครับ เป็นความรู้ใหม่ที่ผมได้รับจากหลวงปู่ ท่านเจ้าอาวาสวัดป่าธรรมยุตครับ