:059:ในอ้อมกอดของขุนเขา
ใต้ร่มเงามวลพฤกษา
ณ จุดหนึ่งแห่งกาลเวลา
ได้ถามตัวเองว่า...แสวงหาสิ่งใด.....?
:060:อยู่กลางหุบเขาใต้เพิงผา
กับวันเวลาที่ผ่านพ้นไป
ได้พบกับสิ่งแปลกใหม่
ที่ซ่อนอยู่ในจิตสำนึก
เป็นความรู้สึกที่มองข้ามไป
ไม่ได้สนใจเมื่อครั้งที่ผ่านมา
เห็นเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิต
หลงผิดคิดไปว่าไร้สาระ
แท้จริงคือธรรมะ...คือสัจจธรรมของชีวิต....
:069:ความรู้สึกของอารมณ์ภายใน ที่ภาษาธรรมเรียกว่าเวทนา คือ สุข-ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ ประกอบด้วยอามิสและไม่ประกอบด้วยอามิส
คือความหวั่นไหวทางจิตต่อผัสสะ ขึ้นอยู่กับสภาวะของจิตใจในขณะนั้น ว่าจะมีสติสัมปชัญญะมากน้อยเพียงใด "ภายนอกเคลื่อนไหว แต่ภายในสงบนิ่ง ก็จะเห็นความเป็นจริงของสภาวะจิต...ความวุ่นวายเราไม่ต้องออกไปแสวงหา เดี๋ยวมันก็มาหาเราเอง ไม่ว่าเราจะอยู๋ที่ไหนมันก็ตามไปถึง หน้าที่ของเราคือการเตรียมตัว เตรียมใจ รับกับปัญหาที่มันจะมา ทุกเวลาทุกขณะ โดยการยึดหลักธรรมะเป็นเครื่องอยู่...
"ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี"แปลความว่า" ธรรมแล ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"
"ผิดเป็นครู รู้แล้วจำ ไม่กระทำผิดอีกเป็นครั้งที่สอง ท่องให้ขึ้นใจ แล้วนำไปปฏิบัติ เตือนตัว เตือนตนอยู่เสมอ ไม่ให้เพลอขาดสติ"
เชื่อมั่น-ศรัทธาปสาทะ-ในธรรมของพระศาสดา
รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม
วจีพเนจร-คนรอนแรม
๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๒ เวลา ๐.๒๕ น.ณ ชายป่าห้วยขาแข้ง อุทัยธานี