เรียกว่าพระกริ่งตั๋กแตนครับ รายละเอียดตามนี้ครับ
พระกริ่งตั๊กแตน แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าพระกริ่ง แต่ไม่ใช่พระเช่นเดียวกับพระกริ่งอื่นๆ ซึ่งเดิมทีนั้นจะเรียกว่า กริ่งตักแตน แต่ภายหลังเดิมชื่อเป็น พระกริ่งตักแตน
นายวันชัย สุพรรณ เจ้าของรายการ "วัดดี พระเครื่องดัง พระเกจิขลัง" ออกอากาศทางสถานีวิทยุ จส.๑ และผู้ดำเนินรายการ "คุยเฟื่องเรื่องพระ" ทางเคเบิลทีวีเอ็นวี ๑ อธิบายให้ฟังว่า พระกริ่งตั๊กแตน (พระกริ่งเขมร) จัดเป็นพระกริ่งนอกอีกชนิดหนึ่ง ที่ปรากฏนิยมเช่าหากันอย่างกว้างขวาง และมีค่านิยมสูง มีกำเนิดมาจากประเทศเขมร สร้างขึ้นตามตำรับไสยศาสตร์ อันสืบเนื่องมาจากศาสนาพราหมณ์ ที่กล่าวถึงพระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่อยู่หลายต่อหลายพระองค์ด้วยกัน เช่น พระอิศวร ผู้เป็นเจ้าโลก หรือที่เรียกว่า พระศิวะ พระวิษณุ และพระนารายณ์ ผู้เป็นใหญ่
พระกริ่งตั๊กแตน ซึ่งสร้างในสมัย พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ผู้เปลี่ยนแปลงจากเทวสถานมาเป็นพุทธสถาน มีประวัติประสบการณ์อภินิหารมากมาย จากปากปู่ย่าตายาย มาสู่ถึงคนในยุคปัจจุบัน ก็เลยเป็นที่เสาะแสวงหาของนักนิยมสะสมพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง ซึ่งทุกท่านมีความเชื่อกันว่า
เมื่อ ได้กริ่งเขมร ไม่ว่าจะเป็นยุคต้น ยุคกลาง หรือยุคปลาย นำมาบูชาพกพาติดตัว ความเป็นสิริมงคลก็จะเกิด เรื่องของสิ่งที่เป็นอัปมงคล ก็จะไม่มีเกิดขึ้นแน่นอน
กำเนิดของพระกริ่งตั๊กแตน จากศาสนาพราหมณ์ ซึ่งเป็นนารายณ์อวตารปางหนึ่ง พระกริ่งตั๊กแตนแบบต่างๆ ที่อยู่ในความนิยม การเรียกชื่อพระกริ่งตั๊กแตนตามสัณฐานบัว การวิวัฒนาการของอักขระตามยุคตามสมัย
โดยปกติแล้ว พระนารายณ์ท่านจะบรรทมสินธุ์เหนือปฤษฎางค์พญานาค ในเกษียรสมุทรเป็นประจำ เมื่อเกิดเหตุการณ์ในเทวโลกก็ดี เหนือในมนุษย์โลกก็ดี เมื่อพระอิศวรผู้เป็นเจ้าจอมโลกไม่สามารถจะปราบปรามได้สำเร็จ ก็จะไปอัญเชิญพระนารายณ์ขึ้นมาจากเกษียรสมุทรอวตารจุติขึ้นมาปราบปรามยุค เข็ญกันเสียที เป็นเช่นนี้ตลอดมา
ดังมีรายละเอียดปรากฏอยู่ในเรื่อง พระนารายณ์สิบปาง และจากสมณาวตาร ซึ่งเป็นการอวตารของพระนารายณ์ปางหนึ่ง ที่ขึ้นมาจากเกษียรสมุทร เพื่อปราบยุคเข็ญในเทวโลก อันเป็นที่มาของ พระกริ่งหน้าตั๊กแตน ซึ่งมีเค้าเรื่องมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
อันว่า พระอิศวร ผู้เป็นจอมโลกซึ่งทรงมีฤทธิ์เดชเป็นอันมาก เฝ้าปกปักรักษาทั้งสามโลกว่ากันอย่างนั้นเถอะ แต่ทว่าท่านใจดีเป็นอย่างยิ่ง มักจะเผลอตัวให้พรเหล่าอสูรผู้ประพฤติดีประพฤติชอบอยู่เสมอๆ จนกระทั่งเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ใน สมณาวตาร นั้นได้กล่าวถึงอสูรตนหนึ่งผู้เป็นเจ้าพระนครโสพัศชื่อ ตรีบุรำ เจ้าอสูรตนนี้แสร้งกระทำความดีความชอบโดยซ่อนเจตนาร้ายไว้ภายในตามนิสัยอสูร ร้าย ใจพาลประพฤติปฏิบัติอยู่เช่นนี้ จนกระทั่งพระอิศวรตายใจเผลอให้พรตามที่อสูรตรีบุรำขอมาว่า อย่าให้ผู้ใดฆ่าตายด้วยศาสตราวุธใดๆ ทั้งสิ้น
นายวันชัยอธิบาย ต่อว่า เมื่ออสูรตรีบุรำได้รับพรจากพระอิศวรแล้วคิดกำเริบเสิบสานยิ่งใหญ่ โดยไปขอพรจากศิวลึงค์ในแม่น้ำสรภู ตรีบุรำเอาทูนศีรษะไว้ ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดกำเริบฤทธิ์ เที่ยวรุกรานย่ำยีฤๅษีเทวัญทุกชั้นฟ้าให้ได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีใครสามารถที่จะปราบปรามอสูรตรีบุรำได้เลย เพราะว่าฆ่าอย่างไรตรีบุรำก็ไม่ตาย แม้แต่พระอิศวรผู้ประทานพรให้ก็ยังมีอันต้องชิดซ้ายหลีกทางให้อสูรตรีบุรำ แล้วน้ำหน้าไหนจะสู้ได้
เฉพาะนางฟ้าสาวสวรรค์กำนัลในไม่ทราบว่าต้องตกเป็นเมียของอสูรตรีบุ รำสักเท่าไรเรียกกันว่า พวกเทวัญตลอด ๑๖ ชั้นฟ้าต้องเดือดร้อนเพราะอสูรตรีบุรำก็แล้วกันเมื่อไรไม่มีใครที่จะปราบ อสูรตรีบุรำได้ คงเหลือแต่พระเอกขี่ม้าขาวอยู่เพียงองค์เดียวคือ พระนารายณ์ที่บรรทมสินธุ์อยู่ในเกษียรสมุทรต้องอวตารขึ้มาปราบปราม อสูรตรีบุรำ ในสมณาวตาร นั้นกล่าวว่า แม้แต่พระนารายณ์ก็ยังสู้ฤทธิ์อสูรตรีบุรำไม่ได้ ต้องใช้เล่ห์กระเท่เนรมิตเป็นพระไปขอบิณฑบาต ศิวลึงค์จากอสูรตรีบุรำ เมื่ออสูรตรีบุรำหลงกลมอบศิวลึงค์ให้พระนารายณ์ไปแล้ว จึงเอากล่องแก้วส่องถูกอสูรตรีบุรำถึงแก่ความตายในทันที เรื่องสมณาวตารซึงเป็นเรื่องราวของพระนารายณ์ปางหนึ่งก็เอวังลงเพียงเท่านี้
"จากเค้าเรื่องใน สมณาวตารนี้เอง เชื่อกันว่าพระนารายณ์ปางนี้ท่านมีฤทธิ์มีเดชมาก จึงนำเอามาสร้างเป็นรูปเคารพ มีชื่อเรียกว่า พระกริ่งเขมร หรือพระกริ่งหน้าตั๊กแตนนั่นเอง ฉะนั้น กำเนิดของพระกริ่งเขมรหรือพระกริ่งหน้าตั๊กแตน จึงมิใช่รูปจำลองของพระไภษัชยคุรุ ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งอวตารลงมาเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้หายจาก ความเจ็บไข้ได้ป่วย ตามนัยพุทธศาสนาลัทธิมหายานไปประเทศจีนและทิเบต แต่ทว่าสร้างเป็นรูปจำลองขององค์พระนารายณ์ในสมณาวตาร กำเนิดของพระกริ่งในประเทศจีนไทย และ ทิเบต จึงมีความแตกต่างกับพระกริ่งของเขมรที่เรียกกันว่า พระกริ่งตั๊กแตน ด้วยเหตุที่กล่าวมาข้างต้น" นายวันชัย กล่าว
จาก คมชัดลึกครับ